นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบความโปร่งใสโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกว่า กมธ.ตรวจสอบได้ข้อยุติเกือบสมบูรณ์แล้ว ได้ข้อสรุปว่า
ในวันที่ 17 พ.ค.กมธ.จะทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอให้ยกเลิกการประมูลโครงการระบบท่อส่งน้ำอีอีซี โดยให้ประมูลใหม่ในระบบอีบิดดิ้ง ให้ทุกบริษัทได้เข้าร่วมประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม เพราะทีโออาร์ในการประมูลรอบที่ผ่านมาไม่ชัดเจน
โดยเฉพาะการประมูลในรอบที่2 มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการทีโออาร์และลดสเปกทีโออาร์ลงมา ซึ่งตัวแทนกรมธนารักษ์ตอบได้ไม่ชัดเจนถึงเหตุผลการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์
นายไชยา กล่าวว่า ขณะเดียวกันจะทำหนังสือถึงนายกฯขอให้ออกมติครม.ให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)ที่เป็นหน่วยงานรัฐรับผิดชอบพื้นที่อีอีซี ร่วมเป็นเจ้าภาพกับกรมธนารักษ์คัดเลือกโครงการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี
เพราะพื้นที่อีอีซีเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีกฎหมายรองรับโดยเฉพาะ ควรให้อีอีซีเข้าไปมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ตัวเอง ให้เกิดการบริหารจัดการร่วมกับกรมธนารักษ์ หากให้ใช้กฎหมายของกรมธนารักษ์เพียงอย่างเดียวอาจเกิดปัญหาได้
โดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบระบบท่อส่งน้ำในอีอีซี 2 สาย ที่จะหมดสัปทานปี 2566 อาจเกิดการตีความในกรรมสิทธิได้ว่า ระบบท่อเหล่านี้เป็นของใครระหว่างบริษัท อิสท์วอเตอร์ ที่เป็นเจ้าของสัมปทานเดิมกับกรมธนารักษ์ เกรงว่า เมื่อครบสัญญาปี2566 จะเกิดปัญหาบริษัทเดิมไม่ส่งมอบระบบท่อให้บริษัทใหม่เข้ามารับช่วงต่อ โดยอ้างการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิระบบท่อส่งน้ำ ทำให้งานไม่เดินหน้า
ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องการอ้งกรรมสิทธิท่อส่งน้ำควรให้อีอีซีเข้ามามีบทบาทในการร่วมคัดเลือกประมูลโครงการด้วย