โรคฝีดาษลิง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “monkeypox” ล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวการการระบาดของโรคฝีดาษลิง โดยยืนยันว่าเบื้องต้นพบผู้ป่วยแล้วอย่างน้อย 80 ราย และอีก 50 รายที่น่าสงสัยอยู่ระหว่างสอบสวน กระจายอยู่ใน 11 ประเทศ และเตือนว่าอาจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก
ล่าสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมาแนะวิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง “monkeypox” โดย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึง โรคฝีดาษลิง monkeypox ว่า โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เช่นเดียวกับไวรัสอีกหลายชนิด ได้แก่
- ไวรัสที่ทำให้เกิดฝีดาษในคนหรือไข้ทรพิษ (variola virus)
- ไวรัสที่นำมาผลิตวัคซีนป้องกันฝีดาษในคน (vaccinia virus)
- และฝีดาษวัว (cowpox virus)
- เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้
โรคฝีดาษลิง monkeypox คนสามารถติดโรคได้ดังนี้
- จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด
- สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ
- หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน
- การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า
- หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย
- การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย
- แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม
- หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน อาจนานถึง 21 วัน
อาการโรคฝีดาษลิง monkeypox
- โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดหลัง
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- หนาวสั่น
- อ่อนเพลีย
- จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา
- และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย
- ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง
- ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ โดยอาการรุนแรงมักพบในกลุ่มเด็ก ซึ่งในประเทศแอฟริกาพบอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10
วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง monkeypox
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือสัตว์ป่า
- หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสกับสัตว์หรือคนที่ติดเชื้อ หรือเดินทางเข้าไปในป่า
- ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศโดยไม่มีการ คัดกรองโรค
- กรณีมีการเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องทำการคัดกรองและเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที และทำการแยกกักเพื่อมิให้ผู้ป่วยมีการแพร่กระจายเชื้อ
ยารักษาโรค
- ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงที่เฉพาะเจาะจง
- แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วย
- การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ
- สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85%
โดยก่อนหน้าที่จะกวาดล้างไข้ทรพิษได้นั้นมีการฉีดวัคซีนหรือที่เรียกกันว่าการปลูกฝี ซึ่งจะช่วยป้องกันทั้งสองโรคนี้ได้เด็กที่เกิดหลังปี 2523 จะไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนไข้ทรพิษมาก่อน จึงเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิงมากกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ.
ที่มา: กรมควบคุมโรค