"โรคฝีดาษลิง" monkeypox กรมควบคุมโรคคัดกรองผ่านระบบ Thailand Pass

25 พ.ค. 2565 | 07:21 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2565 | 14:30 น.

"โรคฝีดาษลิง" monkeypox กรมควบคุมโรคคัดกรองผ่านระบบ Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ พร้อมแนะนำและอาการและวิธีป้องกันอ่านด่วน

โรคฝีดาษลิง monkeypox กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมคัดกรองไข้และอาการที่สนามบินสุวรรณภูมิผ่านการสแกน QR code ในระบบ Thailand Pass พร้อมแจกบัตรเตือนสุขภาพ (Health beware card) เพื่อติดตามให้คำแนะนำและให้นักท่องเที่ยวสังเกตอาการตนเอง

 

วันนี้ (25 พฤษภาคม 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมควบคุมโรค โดยกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค เริ่มให้บริการคัดกรองโรคฝีดาษลิงสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ผ่านระบบ Thailand Pass ซึ่งจะช่วยให้ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดในหลายประเทศ และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้

การเฝ้าระวังโรคภายในประเทศ คือ

  • เน้นการติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง
  •  ประเทศในแถบทวีปแอฟริกากลาง
  •  ไนจีเรีย
  • และคองโก

ส่วนประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศแล้ว ซึ่งเมื่ออยู่ที่สนามบินในประเทศต้นทางอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่เมื่อมาถึงประเทศไทย อาจมีอาการได้ ซึ่งการคัดกรองจะดูว่ามีไข้ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส หรือประวัติมีไข้ร่วมกับมีอาการหนึ่งอาการ ได้แก่ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และต่อมน้ำเหลืองโต ประกอบกับมีผื่นกระจายตามลำตัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด และเดินทางมาจากหรืออาศัยอยู่ใน ประเทศที่มีการรายงานการระบาดของโรคฝีดาษลิงในประเทศภายใน 21 วัน พร้อมทั้งแจกบัตรเตือนสุขภาพ (Health beware card) เป็น QR code ให้ผู้ที่มีอาการดังกล่าวสแกนเข้าระบบเพื่อรายงานอาการป่วย ซึ่งหลักๆ ในบัตรจะระบุว่าหากมีอาการ เช่น ไข้ มีตุ่มให้รายงานเข้าระบบและรีบไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย

 

 

โรคฝีดาษลิง  monkeypox

สำหรับการป้องกันโรคฝีดาษลิง ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • กรณีมีการเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องทำการคัดกรองและเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที
  • ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศโดยไม่มีการคัดกรอง และทำการแยกกักเพื่อมิให้ผู้ป่วยมีการแพร่กระจายเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือสัตว์ป่า
  • หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ
  • หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือ เจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสกับสัตว์หรือคนที่ติดเชื้อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.