หน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งชาติของฝรั่งเศส (HAS) เปิดเผยวานนี้ (24 พ.ค.) ว่า แผนการฉีด วัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จะครอบคลุมผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยง รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วย โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนรุ่นที่ 3 (third generation vaccine) เท่านั้น และควรฉีดในช่วง 4 วันหลังสัมผัสเชื้อ และสูงสุดไม่เกิน 14 วัน
สำหรับการฉีดวัคซีนนั้น จะฉีด 2 โดสสำหรับคนปกติ และ 3 โดสสำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยเว้นระยะห่างแต่ละโดส 28 วัน สำหรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนจะเป็นไปตามข้อมูลด้านระบาดวิทยาและคลินิก
นอกจากนี้ HAS ยังย้ำถึงความสำคัญของการมีข้อมูลและระบบต่าง ๆ ดังนี้
สำหรับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังนั้น สภาสาธารณสุขของฝรั่งเศส (HCPH) จะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ อาการเบื้องต้นของโรคฝีดาษลิงนั้น ได้แก่ อาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น เหนื่อยอ่อน และมีตุ่มผื่นคันคล้ายอีสุกอีใส
เมื่อต้นสัปดาห์ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่า มีรายงานยืนยันการระบาดของฝีดาษลิงใน 15 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ออสเตรเลีย เบลเยียม แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน สวีเดน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (25 พ.ค.) ได้มีรายงานข่าวการพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่มในอีก 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก สโลวีเนีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทำให้จำนวนประเทศที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 18 ประเทศในปัจจุบัน
ด้านสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักรรายใหม่อีก 37 รายซึ่งนับว่ามากที่สุดในยุโรป โดยในจำนวนนี้พบในอังกฤษ 36 ราย และอีก 1 รายพบในสกอตแลนด์ (ซึ่งรายนี้ถือเป็นรายแรกของสกอตแลนด์) ทำให้ขณะนี้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57 รายแล้ว ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ราย แต่ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดเสียชีวิต
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและโรคติดต่อ พากันแสดงความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักร เนื่องจากการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา เชื้อฝีดาษลิงติดต่อกันได้ยาก