ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือนติดหลังโควิด-19 คลี่คลาย

30 พ.ค. 2565 | 06:09 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2565 | 13:10 น.

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือนติดหลังโควิด-19 คลี่คลาย สศอ. คาดเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 0.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ส่งผลให้ MPI ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 1.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

 

ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต 4 เดือนแรกอยู่ที่ 64.63% หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศคลี่คลายลงจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ ตามลำดับ ส่งผลให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 

 

ทั้งนี้ สศอ. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมทางการเกษตร

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย ประชาชนสามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวันและบริโภคได้ตามปกติมากขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลดีต่อภาคการส่งออกทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก 

 

โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถังและอากาศยาน) เดือนเมษายนขยายตัว 4.98% ในขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบของรัสเซียและยูเครนได้ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง 

 

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือนติด

 

ด้านภาพรวมสถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม สะท้อนได้จากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าหมวดสินค้าอุตสาหกรรมเดือนเมษายนขยายตัวที่ 11.4% เร่งตัวขึ้นจากเดือนมีนาคมขยายตัวที่ 10.4%

ขณะเดียวกันสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย สศอ. ได้ใช้เครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (The Early Warning System Industry Economics : EWS-IE) ในการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า 

 

อุปสงค์ในประเทศและการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว ความเชื่อมั่นทางภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้มีความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ด้านปัจจัยต่างประเทศยังคงส่งสัญญาณปกติจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังเติบโตได้ 

 

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือนเมษายน 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่

 

  • ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.82% จากผลิตภัณฑ์รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดกลาง เครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก โดยขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและประเทศคู่ค้า รวมถึงราคาพืชผลเกษตรสำคัญหลายรายการปรับตัวสูงขึ้น

 

  • น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.53% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเครื่องบิน เป็นหลัก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้การขนส่งเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้น ประชาชนสามารถการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้

 

  • ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.41% จากผลิตภัณฑ์ยางแท่ง เป็นหลัก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของแรงงานในปีก่อน ส่งผลให้มีการผลิตได้  เป็นจำนวนน้อย ประกอบกับในปีนี้เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวจึงมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

  • เครื่องประดับ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.95% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ในหลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และทยอยเปิดเมือง ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวและบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้น

 

  • ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.22% จากผลิตภัณฑ์ PCBA และ IC เป็นหลัก เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง