โรคฝีดาษลิง ( Monkeypox) กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชนทั่วโลก ทั้งเรื่องของสาเหตุในการเกิดโรค และวัคซีนในการป้องกัน
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
คาดว่าฝีดาษลิงน่าจะแฝงตัวอยู่ในอังกฤษมา 2-3 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาระบาดเป็นกลุ่มก้อนในปีนี้
นับจากเคสแรกของฝีดาษลิงในอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ซึ่งพบว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย
จนถึงขณะนี้สหราชอาณาจักร (UK) ได้พบผู้ติดเชื้อครบทั้ง 4 ประเทศแล้วคือ
อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ รวมจำนวนมากกว่า 100 ราย
มีแพทย์และนักไวรัสวิทยาจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ทบทวนข้อมูลต่างๆแล้ว มีสมมุติฐานเบื้องต้นว่า
น่าจะมีไวรัสก่อโรคฝีดาษลิงแฝงตัวอยู่ในประเทศอังกฤษมาอย่างน้อย 2-3 ปี
ในช่วงปี 2018-2019 ก็เคยพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงที่เดินทางมาจากไนจีเรีย
โดย Professor David Heymann ประธานคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่มีผลกระทบกับสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก
ก็มีความเห็นในทำนองเดียวกันว่า อังกฤษน่าจะมีเชื้อฝีดาษลิงมาอย่างน้อย 2-3 ปี
เหตุที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในปีนี้ เพราะมีการติดเชื้อเข้าไปในกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) จึงปรากฏจำนวนเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สมมุติฐานดังกล่าวยังจำเป็นจะต้องได้รับการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะสามารถสรุปได้อย่างเป็นทางการต่อไป
ฝีดาษลิงพบในลิงทดลองเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2501 และพบเคสแรกในมนุษย์เมื่อปี 2513 ในประเทศสาธารณรัฐคองโก
การระบาดในปีนี้ ต้องถือเป็นครั้งแรก ที่ไวรัสชนิดนี้ระบาดติดกันเองในชุมชน โดยไม่มีการเดินทางมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา
เพราะถือว่าฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ของทวีปแอฟริกา
และถ้ามีผู้ติดเชื้อนอกแอฟริกา จะต้องมีการเดินทางมาจากแหล่งกำเนิดโรคในแอฟริกาเสมอ
การระบาดของฝีดาษลิงในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกครั้งนี้ จึงต้องเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากการระบาดในอดีต คือเริ่มมีการติดกันเองในประเทศนอกทวีปแอฟริกา