นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ามีการพบสับปะรดเนื้อสีชมพูซึ่งเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ(GMO)ว่า ได้ให้กรมวิชาการเกษตรตรวจเข้มทุกพื้นที่เพราะประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้นฝากเตือนประชาชนว่าอย่านำเข้าพืชดังกล่าวหรือสนับสนุนในการซื้อขาย เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศไทย
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมวิชาการเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดได้มีการติดตามตรวจสอบต่อเนื่อง และจะยิ่งเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน เพราะลำพังภาครัฐบางครั้งจำกัดด้วยกำลังคน โดยเฉพาะยุคที่การซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ที่มีการส่งสินค้ากันมาก ทำให้สุ่มเสี่ยงกับการส่งของผิดกกฎหมาย ดังนั้นฝากประชาชนว่าใครพบเห็นให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯทันที”
ด้าน นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่ากรมวิชาการเกษตรยืนยันว่าไทยไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าพืชจีเอ็มโอ ซึ่งกรณีสับปะรดสีชมพู(Pinkglow)ของบริษัท Del Monte ดังกล่าวปลูกในประเทศคอสตาริกา และเป็นพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าหรือจำหน่ายแต่อย่างใด
นอกจากนั้นกรมยังได้เคยมีการติดต่อไปสื่อออนไลน์ที่โฆษณาจำหน่ายได้รับการแจ้งว่าไม่มีสินค้า และรายที่โฆษณาว่ามีหน่อพันธุ์จำหน่ายนั้นพบว่าเป็นสับปะรดประดับซึ่งไม่ใช่พืชจีเอ็มโอ อีกทั้งกรมได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเฝ้าระวังการนำเข้าและกรณีการโฆษณาขายผ่านสื่อโฆษณา หากพบกรมวิชาการเกษตรจะเข้าดำเนินการทันที
“ขอฝากเตือนผู้ลักลอบนำเข้าว่าหากพบ ท่านจะมีโทษตามกฎหมายตามพรบ.กักพืช พ.ศ. 2507 ที่ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นกรณีกรมวิชาการเกษตรตรวจพบว่ามีการลักลอบซื้อ-ขาย หรือปลูกสามารถยึดอายัดและทำลายได้ทันทีผู้ซื้อ- ผู้ขาย เรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้ดังนั้นมีแต่เสียด้านเดียว จึงขอวอนพี่น้องประชาชนว่าอย่าสนับสนุนพืชดังกล่าว ซึ่งกรมจะมีการจัดทำโปรเตอร์แสดงชนิดพืชสับปะรดสีชมพูเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยพี่น้องประชาชนได้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย “นายระพีภัทร์กล่าว
สำหรับพืชสับปะรด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของสับปะรดAnanas Comosus(L)Merr. จัดเป็นสิ่งที่ต้องห้ามภายใต้พรบ.กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้เฉพาะจากแหล่งที่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชเท่านั้น ปัจจุบันอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์แหล่งเดียว หากนำเข้าจากแหล่งที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชจะถูกส่งกลับหรือทำลาย และผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
///