ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

07 มิ.ย. 2565 | 04:07 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2565 | 11:16 น.

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง  ชี้หากจีนนำเข้าเพิ่ม15%จะช่วยดันราคาทุเรียนพุ่งใน5ปีราคาเฉลี่ย313-361 บาท/กก.  แต่ยังมีโอกาสความเสี่ยงสูง ทั้งคุณภาพของทุเรียน ก่ารถูกสวมสิทธิ์ ผลผลิตล้นตลาด การขนส่ง แรงงานขาดแคลน

นายอัทธ์ พิศาลวานิช  ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเสี่ยงทุเรียนไทยและทุเรียนไทย ปังหรือพังใน 5 ปีข้างหน้า ว่าในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเนื้อที่เพาะปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกภาคในประเทศไทย โดยในปี 2564 เนื้อที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น 6 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องจากปลูกทุเรียนแทนพืชอื่น เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  ส่วนปี 2565-2569 ผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 337,648 ตันต่อปี เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากช่วงปี 2554-2564

นายอัทธ์ พิศาลวานิช  ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

“DURI เป็นดัชนีที่จัดทำขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์ทุเรียนไทย โดย DURI < 50 หมายถึงสถานการณ์ทุเรียนไทยมีความเสี่ยงน้อย DURI = 50 หมายถึงสถานการณ์ความเสี่ยงทุเรียนไทยปกติ และ DURI > 50 หมายถึง สถานการณ์ความเสี่ยงทุเรียนไทยมาก โดยดัชนี DURI ปี 2562-2569 มีค่าเท่ากับ 46, 47, 52, 51, 54, 57, 55 และ 60 ตามลำดับ แสดงว่า สถานการณ์ทุเรียนปี 2562-2563 มีความเสี่ยงน้อยแต่อีก 5 ปี ข้างหน้า ยังมีโอกาสความเสี่ยงสูง”

 

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

สำหรับราคาทุเรียน 5 ปี ( 2565-2569) เฉลี่ยในปี 2565-2569 ประมาณ 136 บาท/กก.   แต่หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยน้อยกว่า 10% ราคาขายส่งทุเรียนหมอนทองไทย ณ ตลาดเจียงหนาน ปี 2569 ประมาณ 312 บาท/กก. ซึ่งเฉลี่ยราคาในปี 2565-2569 ประมาณ 271 บาท/กก. ในทางกลับกับหากจีนนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่ม 10-15% ราคาขายส่งทุเรียนหมอนทองไทย ณ ตลาดเจียงหนาน ปี 2569 ประมาณ 362-417 บาท/กก. เฉลี่ยราคาในปี 2565-2569 ประมาณ 313-361 บาท/กก.

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

ส่วนแนวโน้มทุเรียนโลกในช่วง5ปี (2565-2569)  ผลผลิตทุเรียนโลก เพิ่ม 1.8 เท่า  ส่งออกทุเรียนโลกเพิ่ม 2.2 เท่า บริโภคในประเทศเพิ่ม 1.7 เท่า (เทียบปี 2564) โดยผลผลิตเพิ่มเฉลี่ย 612,276 ตันต่อปี การส่งออกเพิ่มเฉลี่ย  273,937 ตันต่อปี  และปี 2569 ไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกหลัก โดยส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้น 90.43% จากปี 2565 ขณะที่เวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้น 156.06%

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

ตามผลผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนตันในปี 2569  ส่วนทุเรียนอาเซียน ผลผลิตทุเรียนไทย 5 ปีข้างหน้าเพิ่ม 2.4 เท่า (2,904,697 ตัน ในปี 2569) ส่งออกเพิ่มขึ้น 2.1 เท่า (1,905,584 ตัน ในปี 2569) บริโภคในประเทศเพิ่ม 3.3 เท่า (999,114 ตัน ในปี 2569) จากปี 2564  โดยปี 2565 จะมีสัดส่วนการบริโภคในประเทศ 24.6% ส่งออก 75.4% และในปี 2569 จะมีสัดส่วนการบริโภคในประเทศ 34.4% ส่งออก 65.6%

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

ขณะที่ทุเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ทุเรียนมาเลเซีย เพิ่ม 44.9%    อินโดนีเซีย เพิ่ม 28.9%  ฟิลิปปินส์ เพิ่ม 44%   เวียดนาม เพิ่ม 93.9%   และอาเซียนอื่นๆ เพิ่ม 82.5%   ส่วนใสนกลุ่ม CLMV ปี 2565 มีผลผลิต 701,542 ตัน และปี 2569 จะมีผลผลิต 1,115,351 ตัน เพิ่มขึ้น 59% จากปี 2565 โดยคาดว่าในปี 2569 เวียดนามจะมีผลผลิตมากที่สุด (700,643 ตัน) รองลงมาคือ กัมพูชา (212,747 ตัน) ลาว (136,534 ตัน) และเมียนมา (65,427 ตัน)

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

ทั้งนี้ปริมาณเงินสะพัดในตลาดทุเรียนไทยปี 2565 ทำเงินสะพัด 7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 เท่ากับ 6 หมื่นล้านบาท (ปี 2564 เท่ากับ 6.4 แสนล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยภาคตะวันออกมีเงินสะพัดมากที่สุด รองลงมาคือภาคใต้ และภาคเหนือ ตามลำดับ  

ส่องอนาคตทุเรียนไทย 5 ปี ข้างหน้า: ปังหรือพัง

“ทุเรียนไทย 5 ปี มองได้แบบนี้ คือ 3 ปัง ได้แก่ 1. ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับจีน 2.ผู้บริโภคจีนมีความต้องการสูง 3. คุณภาพทุเรียนดี ไม่มีทุเรียนอ่อน  และ10 พัง ได้แก่ 1.ความสัมพันธ์ไทย-จีนมีปัญหา 2.คุณภาพของทุเรียนอ่อน/แก่เกินไป 3.ทุเรียนจากจีนและประเทศเพื่อนบ้าน 4. สวมสิทธิ์ทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน 5. การขนส่งมีปัญหา 6.ตลาดถูกควบคุมโดยล้ง 7.สภาพภูมิอากาศ 8.ขาดแคลนแรงงาน 9.โรคระบาด 10.ผลผลิตไทยเพิ่มมากขึ้น”