นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบันร้านค้าปลีกขนาดเล็กหรือโชห่วย ยังเป็นธุรกิจฐานรากที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะมีจำนวนส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจค้าปลีกมากที่สุด ที่สำคัญเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่มีความใกล้ชิดกับลูกค้า มีอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
แม็คโคร ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ที่มีพันธกิจส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจค้าปลีกรายย่อยให้เติบโต ผ่านโครงการมิตรแท้โชห่วยที่ริเริ่มมากว่า 16 ปี จึงได้จัดงานตลาดนัดโชห่วยครั้งที่ 12 ขึ้น ระหว่างวันที่ 2 – 5 มิถุนายน ภายใต้แนวคิด “สูตรสำเร็จ โชห่วยไทย สู้ภัยเศรษฐกิจ” เพื่อยกระดับโชห่วยไทยให้เข้มแข็ง พร้อมผ่านทุกวิกฤตการณ์ไปได้ โดยได้รับเกียรติจาก นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้จาก16 ปีที่แม็คโคร ได้ดำเนินโครงการมิตรแท้โชห่วย ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจความต้องการของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อยหรือ โชห่วยอย่างลึกซึ้ง จากเดิมที่นำเสนอเคล็ดลับ “8 ความรู้พื้นฐานและหัวใจความสำเร็จ” ที่เจ้าของกิจการต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ตั้ง-ความแตกต่าง-สต๊อกสินค้า-การเลือกสินค้า-ส่งเสริมการขาย-ราคาและกำไร-ผังร้านและจัดเรียง-การแต่งร้าน
ปัจจุบันแม็คโครได้พัฒนาองค์ความรู้ที่ได้จากความสำเร็จของสมาชิกมิตรแท้โชห่วย ผสานกับการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์เป็นสูตรสำเร็จเพื่อให้ร้านค้านำไปปรับใช้ได้ง่ายขึ้น เรียกว่า เป็น 3 แนวทางของการพัฒนาขีดความสามารถ โดยยังยึดแกนสำคัญคือ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ เอาไว้
สำหรับ 3 สูตรสำเร็จ ให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีโอกาสแข่งขันได้ ประกอบด้วย
ปัจจุบัน คนทำธุรกิจโชห่วยมากกว่า 406,200 ราย (ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า) ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก ตลาดออนไลน์ที่เข้ามาในทุกจังหวะชีวิต ไม่นับปัญหาเดิม ๆ อย่างการขาดคนรุ่นใหม่สืบทอดกิจการ ขาดความรู้ด้านการจัดการ การจะเป็นโชห่วยที่อยู่รอดและอยู่รุ่งได้อย่างยั่งยืนได้ จึงต้อง “ปรับตัว”
“แม็คโคร ยังทำงานร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการพัฒนาขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการโชห่วยอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายคือ การเป็นคู่ค้าที่อยู่เคียงข้างโชห่วยไทย ธุรกิจเล็ก ๆ ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโต สร้างรายได้และความมั่นคงให้กับคนไทยในทุกชุมชนอย่างยั่งยืน” นางศิริพร กล่าว