นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ร่วมประชุมทบทวนการขออนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโครงการสาธารณะประโยชน์ลำรางทุ่งกะโล่ จ.อุตรดิตถ์
โดยมี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการประชุม พร้อมทั้ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ อบต.ม่วงเจ็ดต้น กรมชลประทาน
ซึ่งการประชุมครั้งนี้เพื่อทบทวนการอนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ทำผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ที่สาธารณประโยชน์ลำรางทุ่งกะโล่ กรณีสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขขอใช้พื้นที่เพื่อสร้างวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ ส่วนขยาย เนื้อที่ 250 ไร่, กรณีมหาวิทยาลัยอุตรดิตถ์ ขอใช้พื้นที่เพื่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ แห่งที่ 2 เนื้อที่ 2,000ไร่, กรณีจังหวัดอุตรดิตถ์ ขอใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างพระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 9
พร้อมปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและนันทนาการของจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อที่ 774 ไร่ รวมถึงกรณีองค์การบริหารส่วนตำบลม่วงเจ็ดต้น ขอใช้ที่ดินเพื่อที่เป็นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุดรดิตถ์ เนื้อที่ 59 ไร่
ในส่วนของพื้นที่ดำเนินการที่ดินรัฐ ป่าทุ่งกะโล่ มีเนื้อที่ประมาณ 18,537 ไร่ 5 ตำบล ในส่วนของการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ลำรางทุ่งกะโล่ในเขตปฏิรูปที่ดิน มีเนื้อที่ 7,429-1-64 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่กิจการสาธารณูปโภค 75.70% แปลงเกษตรกรรม 11.88% พื้นที่ยังไม่ได้ขอใช้ 11.76% กิจการสนับสนุนเกี้ยวเนื่องฯ 0.66% โดยพื้นที่ทบทวนการขอใช้พื้นที่ จำนวน 2,250 ไร่
ทั้งนี้ ส.ป.ก. ได้พิจารณาทบทวนอนุญาตการใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่นๆในเขตปฏิรูปที่ดิน ควรดำเนินการปรับลดพื้นที่ตามความจำเป็นและเหมาะสม, รักษาพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชุมชนโดยรวม และเพื่อให้การดำเนินการปฏิรูปที่ดินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จึงขอทบทวนการพิจารณาอนุญาติให้หน่วยงานราชการเข้าใช้ประโยชน์ โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดินเป็นหลัก และในส่วนพื้นที่ที่ยังไม่ดำเนินการ ส.ป.ก. จะเร่งดำเนินการจัดสรรให้เกษตรกรเพื่อใช้ในการเกษตรหรือดำเนินการอย่างอื่นและเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดิน
โดยคาดว่าจะสามารถนำที่ดินแปลงว่างมาจัดที่ดินให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ไม่น้อยกว่า 3,000 ไร่ และเกษตรกรได้ไม่น้อยกว่า 500 ราย เพื่อพี่น้องเกษตรกรและยกระดับคุณภาพชีวิตให้อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุขในเขตปฏิรูปที่ดิน