วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานในการประชุม คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังนายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่กำกับดูแลให้การใช้ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ปลดล็อคกัญชาและกัญชงจากยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง และ เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเกิดการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวเนื่อง
ทั้งนี้ที่ประชุมฯ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 6 คณะ เพื่อสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมการในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ดังนี้
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังรับทราบรายงานสถานการณ์กัญชา กัญชงในมิติต่าง พร้อมกับมีข้อเสนอ ข้อห่วงใยในประเด็นต่างๆ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวบรวมทุกข้อเสนอแนะเพื่อมอบหมายต่ออนุกรรมการด้านต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
โดยรองนายกรัฐมนตรีจะนำข้อเสนอแนะจากที่ประชุมไปเสนอต่อกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อให้เกิดการแปรญัตติที่รอบด้านให้กฎหมายที่กำลังจะออกมาสามารถดูแลการใช้กัญชา กัญชง อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า นับแต่รัฐบาลได้เริ่มมีนโยบายผลักดันการใช้ประโยชน์จากกัญชา ด้านการแพทย์มีการกระจายยากัญชาไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ และมีการจ่ายยากัญชาไปแล้ว1,437,443 หน่วย มีผู้ป่วยที่ได้รับยากัญชาไปแล้วมากกว่า 109,008 ราย มียากัญชาในบัญชียาหลักแห่งชาติทั้งสิ้น 8 ตำรับ
ส่วนประโยชน์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้มีการให้อนุญาตผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา ที่มีการนำกัญชาและกัญชงไปเป็นส่วนประกอบทั้งหมด 1,181 รายการ
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักในประเด็นความกังวลต่อกรณีที่อาจมีการใช้กัญชาและกัญชงในทางที่ไม่เหมาะสม และยืนยันในแนวนโยบายที่รัฐบาลไม่สนับสนุนการใช้ในทางมอมเมาหรือเพื่อสันทนาการ ซึ่ง นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและต้องการให้การบริหารจัดการสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาฯ คณะนี้ขึ้นมา เพื่อวางมาตรการกำกับการใช้ประโยชน์ กำหนดมาตรฐานการผลิตในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาตรการคุ้มครองบุคคลเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ในทางไม่เหมาะสม ตลอดจนการสื่อสารให้ประชาชนมีความเข้าใจ โดยคณะกรรมการจะทำหน้าที่ไปจนกว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะมีผลบังคับ
ขณะที่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... วานนี้ (8 มิ.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีการที่ได้มีการลงคะแนนรับหลักการร่างกฎหมายอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 373 เสียง แสดงให้เห็นว่าสภาเห็นด้วยกับแนวทางการส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาและกัญชง เพียงแต่ต้องมีมาตรการดูแลที่เหมาะสมป้องกันผลกระทบต่อสังคม ดังนั้น รัฐบาลจะดำเนินการทุกด้านอย่างรัดกุมเพื่อให้เกิดการใช้กัญชาและกัญชงในทางเป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
อย่างไรก็ตามในการผลักดันเรื่องนี้นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกัญชา กัญชงในประเทศไทย และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะได้ทำความเข้าใจและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ประชาชนจะสามารถปลูกเพื่อประโยชน์จากกัญชา กัญชง
ส่วนผู้ที่ต้องการทำธุรกิจก็ทำได้ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์ เพิ่มโอกาสและเกิดความหลากหลายทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็มีการควบคุมการผลิตสารสกัดให้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีมาตรการป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
“คณะกรรมการฯ จะเข้ามาดูแลไปจนกว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะมีผลบังคับเป็นทางการ แต่เชื่อว่าระหว่างนี้จะไม่มีปัญหาเนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการในด้านต่างๆ มาโดยต่อเนื่อง และสาธารณสุขก็มีกฎหมายข้อกำหนดต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้บังคับเพื่อไม่ให้มีการใช้กัญชากัญชงในทางที่ไม่เหมาะสมได้” นายอนุทิน กล่าว