ปลดล็อกกัญชาสูบได้ไหม ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง กำลังเป็นคำถามมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังกัญชาจะถูกปลดล็อกในวันนี้ (9 มิ.ย.)
ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Ramathibodi Poison Center ว่า
ข้อระวังการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ฉบับ 6 มิถุนายน 2565
ตั้งแต่ 9 มิ.ย.65 นี้ กัญชาทุกส่วน รวมถึง “ช่อดอกซึ่งมี THC สูง” จะไม่ถูกกำกับดูแลในฐานะสิ่งเสพติดในประเทศไทย และจะไม่มีกฎหมายกำกับดูแลการใช้ ไม่มีข้อจำกัดในการวางขายในช่องทางต่างๆ ไม่มีอายุที่ห้ามซื้อขาย
ไม่มีสถานที่ห้ามเสพที่ชัดเจน จนกว่าจะมีกฎหมายที่กำกับดูแลการจัดการกัญชาให้ปลอดภัยแก่ประชาชนซึ่งตอนนี้ยังเป็นร่างพระราชบัญญัติไม่มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติเนื่องจากยังไม่เข้าวาระการพิจารณาในสภา
ในประเทศที่เสรีกัญชาแบบเสพสันทนาการได้เขาจะมีการกำกับดูแลด้านต่างๆให้มีความปลอดภัยเช่นด้านการผลิต การตรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์ คุณภาพฉลากและหีบห่อ ช่องทางการซื้อขาย การจำกัดอายุและการเข้าถึงเด็ก เป็นต้น
ในช่วงที่ พรบ.กัญชายังไม่ออกการกำกับดูแลในประเทศไทยจะไม่ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด....แต่ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าสาร THC ที่พบใน “ช่อดอกกัญชา” มีฤทธิ์ทำให้เกิดการเสพติด เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคทางจิตประสาท และมีผลกระทบต่อสุขภาพในระบบต่างๆ
ที่สำคัญคือ ควันจากการสูบกัญชาที่มี THC นี้ สามารถทำให้คนรอบตัวได้รับสาร THC เข้าสู่ร่างกายได้ เป็นกัญชามือสอง เช่นเดียวกับบุหรี่มือสอง ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก โดยสามารถตรวจพบสารและในบางการศึกษาพบว่าผู้ได้รับควันมือสองนี้มีอาการมึนเมาและอาการระคายเคืองจากควันร่วมด้วย
นี่ยังไม่ถึงวันที่ 9 มิ.ย. เลยลองหา “กัญชา” ในช่องทางโซเชียลต่างๆท่านจะพบว่ามันมีขายผลิตภัณฑ์เพื่อการเสพ THC หลากหลายรูปแบบโดยไม่มีมาตรฐานกำกับดูแล อาจมีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงสารละลายในแบบบุหรี่ไฟฟ้าที่เคยสัมพันธ์กับการปอดอักเสบในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มี
หากจะกล่าวว่ามีการกระจายของ THC สู่สังคมมากขึ้นแล้วก็คงจะไม่เกินจริงนัก
ในช่วงที่ไม่มีการกำกับดูแล...การป้องกันตนเองและคนที่คุณรักจึงเป็นสิ่งที่เรา “ต้องรู้เท่าทันและระวังความปลอดภัยด้วยตนเอง” จนกว่า พรบ. จะออกมา (หวังว่าจะออกมาได้โดยเร็ว) หรือจะมีการเลื่อนการปลดล็อคออกไป (ซึ่งเข้าใจว่าไม่ทันแล้วล่ะ)
ในช่วงนี้เราควรระมัดระวังเรื่องอะไรกันบ้าง
ในช่วงเวลานี้ความรู้และสติเท่านั้นที่จะเป็นเกราะป้องกันเราและคนที่เรารักษาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในช่วงที่ยังไม่มีการกำกับดูแลการจัดการกัญชา
หวังว่า พรบ. กำกับดูแล จะออกมาโดยเร็วที่สุดและมีความรัดกุมเพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่สังคม
สุดท้ายขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย ห่างไกลโรคและการบาดเจ็บทั้งปวง