นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึง "ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2565" เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยสงครามรัสเซียยูเครนทำให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
ทั้งนี้ศูนย์พยากรณ์ฯปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย(GDP)ในปีนี้ลงเหลือ 3.1% จากประมาณการเดิมที่ 4.2% ส่วนการส่งออกคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 6.3% และอัตราเงินเฟ้อขยายตัว6% ภายใต้สมมุติฐานที่เศรษฐกิจโลกเติบโต 2.9% จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6.1 ล้านคน
อัตราแลกเปลี่ยน 34.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เบล โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตรจะมีผลกับ GDP 0.2% ในขณะที่น้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตรจะมีผลต่อเศรษฐกิจ0.1%
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาของการขาดแคลนสินค้าในห่วงโซ่การผลิตมีผลต่อการส่งออก และเศรษฐกิจจีนยังคงมีความไม่แน่นอนโดยมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงหลังการระบาดของโควิด-19 จนต้องใช้มาตรการ Zero COVID รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนอาจมีผลต่อการค้าโลกอีกครั้ง”