นายธวัชชัย จรูญชาติ นายกเทศมนตรีตำบลสันมะค่า อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ปีนี้ลำไยมีจะต่างจากปีที่แล้ว เป็นลำไยแก่ หรือภาษาลำไย เรียกว่า ลำไยขึ้นโหนกยกไหล่ หากนำไปอบจะทำให้แห้งยาก แต่ปีนีไม่มีปัญหาเรื่องลำไยแก่ และยังไม่มีการเก็บอีกจำนวนมาก แต่ปีนี้มากกว่าปีที่แล้วมีผลผลิตออกมาค่อนข้างมาก ส่งผลทำให้ราคาวันนี้ (21 ก.ค.65) AA (จัมโบ้) ราคา 14-15 บาท ,ส่วน ขนาด A ราคา 5-6 บาท/กิโลกรัม ราคาต่างกันประมาณ 9-10 บาท, เบอร์ B ราคา 3 บาท/กิโลกรัม ส่วนเบอร์ c ราคา 1 บาท/กิโลกรัม
“อ้างอิงข้อมูลผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการมากว่า 15 ปี ที่เรียกว่า ท่าลำไย มีคอนเนกชั่นกับล้งรายใหญ่ของจังหวัดเชียงราย เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก แล้วถ้าไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ข้อมูลต่างๆ เข้าถึงยาก ซึ่งจากข้อมูลที่ให้มา “ลำไย” ภาคเหนือ มี 5 ประเด็นหลัก โดยนำเสนอให้ผู้มีอำนาจมาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต้องเข้าใจโครงสร้างปัญหาของอุตสาหกรรมลำไย
ประเด็นแรก ปัจจัยการผลิตแพง เพราะไปผูกกับราคาน้ำมัน อาทิ ปุ๋ย ยา ฮอร์โมน และสารเร่งต่างๆ ถ้ารัฐบาลจะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้ก็จะเป็นการดีมาก ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัว จะเสนอไปที่เกษตรกรชาวไร่มากกว่า โดยมีโมเดลต้นแบบของการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรในแบบวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มเพื่อต่อรองในการซื้อปัจจัยการผลิต ปุ๋ยยา แบบมีปริมาณมาก ในราคาต้นทุน โดยขายปุ๋ยให้กับสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจลำไยมาซื้อในราคาต้นทุนบวกกำไรนิดหน่อยเพื่อให้วิสาหกิจชุมชนเดินได้ และชาวสวนลำไย ก็ได้ของที่ไม่แพง มีคุณภาพด้วย
ช่วงก่อนทำลำไย ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ 600-700 บาท ตอนนี้ราคา 1,600-1,700 บาท แต่ตอนนี้ราคาเริ่มปรับลงแล้ว เหลือประมาณ 1,300 บาท แต่ถ้ารัฐมาช่วยในเรื่องปัจจัยการผลิตก็น่าจะดีมาก
ประเด็นที่ 2 ในเรื่องคุณภาพลำไย มีเชื้อแป้ง มีรา ดำ เชื่อมโยงกับการมาตรฐานหลักของประเทศไทยให้ได้ก็คือ ประเทศจีน และต่อไปในอนาคต จะต้องมี ตรา GAP และหากทางการจีน ซึ่งเป็นคนกำหนดมา ตั้งมาตรฐานค่อนข้างสูง แค่เกษตรปลอดภัย ไม่ใช่อินทรีย์ เกษตรกรภาคเหนือจะต้องปรับตัวกันมาก เพื่อจะยกระดับ เสนอให้ภาครัฐลงมาให้ความรู้กับเกษตรกร และการปรับตัวกระบวนการผลิตทำอย่างไรให้ได้มีคุณภาพ ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับวิถีชีวิตในการทำลำไยที่ผ่านมา
ประเด็นที่ 3 เรื่องราคาลำไย มี 2 ประเด็นย่อย ในความคิดเห็นส่วนตัว ตั้งข้อสังเกต เบอร์ AA กับ เบอร์ A ทำไมการตั้งราคาห่างกัน ถึง 10 บาท ทั้งที่ขนาดต่างกันนิดเดียว ถ้าวัดความกว้าง เป็นความยาวเซนติเมตร ไม่ต่างกันประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรด้วยซ้ำไป ซึ่งแต่ก่อนในยุคต้นของการค้าลำไย ราคาจะห่างกันแค่ 3-5 บาท/กิโลกรัมเท่านั้น แต่ทำไมเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาราคาถึงห่างกันก็ไม่เข้าใจ
ทั้งนี้ลำไย เกษตรกรมีลำไย หากถัวเฉลี่ย เบอร์ A คือ เบอร์ที่ 2 มีมากที่สุด เกิน 50% ซึ่งพ่อค้าก็มองเห็น แล้วให้ราคาต่างกันกับ เบอร์ A ถึง 10 บาท/กิโลกรัม ไม่เป็นธรรมกับเกษตรกร
ส่วนประเด็นย่อยที่ 2 เรื่องประกันราคา ให้เลียนโมเดล สินค้าเกษตร ยางพารา ข้าว ทำไมลำไยไม่มีบ้าง ซึ่งการประกันลำไย แต่ละเบอร์ ยกตัว เบอร์ AA ราคา 20 บาท/กิโลกรัม ,เบอร์ A ราคา 15 บาท/กิโลกรัม , เบอร์ B ราคา 5-7 บาทต่อกิโลกรัม และเบอร์ C ราคา 2 บาทต่อกิโลกรัม โดยแต่ละขนาดหากซื้อราคาต่ำกว่าที่ประกันก็ให้รัฐบาลชดเชยให้ ในปริมาณจำกัดโควตา แล้วแต่จะพิจารณา 5,000 ถึง 1 หมื่นตัน แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาให้
ต้องทำควบคู่กับจ่ายเงินเยียวยาไร่ละ 2,000 บาท และอุดช่องโหว่ทุจริตปีที่แล้ว เกษตรกรแจ้งเท็จ และไม่ใช่ชาวสวนตัวจริง แค่ซื้อที่ดินไว้ ต้องรัดกุมอย่าให้ซ้ำรอยปีที่แล้ว นอกจากในเรื่องดังกล่าวนี้ควรมีกฎหมายเป็น พ.ร.บ.อุตสาหกรรมลำไยเพื่อความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรของการค้า เช่น การออกประกาศราคารับซื้อ ไร้กฎเกณฑ์ นึกอยากจะตั้งราคาเท่าไรก็ได้ เปลี่ยนตามใจ เกิดจากการผูกขาด แต่ถ้ามีกฎหมายตัวนี้ออกมาจะช่วยทำให้การค้ามีความเป็นธรรม
ส่วนประเด็นสุดท้ายเรื่องตลาดลำไย มีอยู่ 3 ประเทศ จะมีหลัก อาทิ ประเทศจีน สัดส่วน 60% อินโดนีเซีย และเวียดนาม 20% ลักษณะไปที่อินโดนีเซีย จะสั่งซื้อเป็นลำไยสด แล้วไปอบที่ประเทศ ถ้าไปเวียดนาม ลำไยช่อที่ผิดสวย ต้องไม่มีกละดำ ส่วนประเทศจีน ก็มีลักษณะเป็นตลาดผูกขาด
ดังนั้นจะต้องเพิ่มขยายตลาดช่องทางมากขึ้น หมายความถ้ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนหากมีความสัมพันธ์ทีดี ก็จะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ให้ดีคงไว้เพื่อไม่มีปัญหากระทบตลาด ส่วนตลาดภายในจะให้เกษตรกรไปขายก็คงยาก เพราะค่าน้ำมันไปกลับ ก็ไม่ไหว แต่ถ้าส่งผ่านไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นให้รัฐบาลมาสนับสนุน จะเป็นการช่วยขยายตลาดในประเทศหลากมิติ
อย่างไรก็ดี นายธวัชชัย กล่าวการที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไยภาคเหนือ เพราะหมวกหนึ่ง ก็เป็นข้าราชการการเมือง มีเรื่องวินัยมากำกับ แต่ผมก็ปรึกษานักกฎหมายว่าพูดได้ไหม เพราะการสะท้อนปัญหาเป็นแค่สื่อกลางกระบอกเสียงให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อน ไม่น่าจะผิดอะไร แล้วก็ไม่ได้โจมตีใคร
“ลำไย ในอำเภอปะแดด” เป็นอำเภอที่มีลำไยเยอะมาก มีคุณภาพด้วย อย่างน้อยผมก็มาจากประชาชน มาจากการเลือกตั้ง ตอนที่พี่น้องลำบากก็ขอร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยด้วยกัน และเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะมาช่วยกันแก้ปัญหา