ร้อง “ประกันราคา” ลำไย ควบคู่จ่ายเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท (คลิป)

21 ก.ค. 2565 | 13:44 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2565 | 21:59 น.

“ธวัชชัย” นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลสันมะค่า เรียกร้องนายกรัฐมนตรี “ประกันราคา” ลำไย เลียนโมเดล ประกันรายได้เกษตรกร 5 พืช พ่วงจ่ายเยียวยาไร่ละ 2,000 บาท ซับน้ำตาชาวสวนลำไย ตกต่ำ หวั่นเจ๊งขาดทุน ซ้ำรอยปีที่แล้ว

ร้อง “ประกันราคา” ลำไย ควบคู่จ่ายเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท (คลิป)

 

นายธวัชชัย จรูญชาติ นายกเทศมนตรีตำบลสันมะค่า อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ปีนี้ลำไยมีจะต่างจากปีที่แล้ว เป็นลำไยแก่ หรือภาษาลำไย เรียกว่า ลำไยขึ้นโหนกยกไหล่  หากนำไปอบจะทำให้แห้งยาก แต่ปีนีไม่มีปัญหาเรื่องลำไยแก่ และยังไม่มีการเก็บอีกจำนวนมาก แต่ปีนี้มากกว่าปีที่แล้วมีผลผลิตออกมาค่อนข้างมาก ส่งผลทำให้ราคาวันนี้ (21 ก.ค.65) AA (จัมโบ้) ราคา  14-15 บาท ,ส่วน ขนาด A ราคา 5-6 บาท/กิโลกรัม ราคาต่างกันประมาณ 9-10 บาท, เบอร์ B ราคา 3 บาท/กิโลกรัม  ส่วนเบอร์ c ราคา 1 บาท/กิโลกรัม

 

“อ้างอิงข้อมูลผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการมากว่า 15 ปี ที่เรียกว่า ท่าลำไย มีคอนเนกชั่นกับล้งรายใหญ่ของจังหวัดเชียงราย เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก แล้วถ้าไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ข้อมูลต่างๆ เข้าถึงยาก ซึ่งจากข้อมูลที่ให้มา “ลำไย” ภาคเหนือ มี 5 ประเด็นหลัก โดยนำเสนอให้ผู้มีอำนาจมาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต้องเข้าใจโครงสร้างปัญหาของอุตสาหกรรมลำไย

 

ร้อง “ประกันราคา” ลำไย ควบคู่จ่ายเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท (คลิป)

 

ประเด็นแรก ปัจจัยการผลิตแพง เพราะไปผูกกับราคาน้ำมัน อาทิ ปุ๋ย ยา ฮอร์โมน และสารเร่งต่างๆ  ถ้ารัฐบาลจะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้ก็จะเป็นการดีมาก ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัว จะเสนอไปที่เกษตรกรชาวไร่มากกว่า โดยมีโมเดลต้นแบบของการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรในแบบวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มเพื่อต่อรองในการซื้อปัจจัยการผลิต ปุ๋ยยา แบบมีปริมาณมาก ในราคาต้นทุน โดยขายปุ๋ยให้กับสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจลำไยมาซื้อในราคาต้นทุนบวกกำไรนิดหน่อยเพื่อให้วิสาหกิจชุมชนเดินได้ และชาวสวนลำไย ก็ได้ของที่ไม่แพง มีคุณภาพด้วย

 

 

ช่วงก่อนทำลำไย ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ  600-700 บาท  ตอนนี้ราคา 1,600-1,700 บาท แต่ตอนนี้ราคาเริ่มปรับลงแล้ว เหลือประมาณ 1,300 บาท แต่ถ้ารัฐมาช่วยในเรื่องปัจจัยการผลิตก็น่าจะดีมาก

 

 

 

ประเด็นที่ 2 ในเรื่องคุณภาพลำไย มีเชื้อแป้ง มีรา ดำ เชื่อมโยงกับการมาตรฐานหลักของประเทศไทยให้ได้ก็คือ ประเทศจีน และต่อไปในอนาคต จะต้องมี ตรา GAP  และหากทางการจีน ซึ่งเป็นคนกำหนดมา ตั้งมาตรฐานค่อนข้างสูง แค่เกษตรปลอดภัย ไม่ใช่อินทรีย์ เกษตรกรภาคเหนือจะต้องปรับตัวกันมาก เพื่อจะยกระดับ  เสนอให้ภาครัฐลงมาให้ความรู้กับเกษตรกร และการปรับตัวกระบวนการผลิตทำอย่างไรให้ได้มีคุณภาพ ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับวิถีชีวิตในการทำลำไยที่ผ่านมา

 

ร้อง “ประกันราคา” ลำไย ควบคู่จ่ายเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท (คลิป)

 

ประเด็นที่ 3 เรื่องราคาลำไย มี 2 ประเด็นย่อย ในความคิดเห็นส่วนตัว ตั้งข้อสังเกต เบอร์ AA  กับ เบอร์ A ทำไมการตั้งราคาห่างกัน ถึง 10 บาท ทั้งที่ขนาดต่างกันนิดเดียว ถ้าวัดความกว้าง เป็นความยาวเซนติเมตร ไม่ต่างกันประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรด้วยซ้ำไป ซึ่งแต่ก่อนในยุคต้นของการค้าลำไย ราคาจะห่างกันแค่ 3-5 บาท/กิโลกรัมเท่านั้น แต่ทำไมเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาราคาถึงห่างกันก็ไม่เข้าใจ

 

ทั้งนี้ลำไย เกษตรกรมีลำไย หากถัวเฉลี่ย เบอร์ A คือ เบอร์ที่ 2 มีมากที่สุด เกิน 50% ซึ่งพ่อค้าก็มองเห็น แล้วให้ราคาต่างกันกับ เบอร์ A ถึง 10 บาท/กิโลกรัม ไม่เป็นธรรมกับเกษตรกร

 

 

ส่วนประเด็นย่อยที่ 2 เรื่องประกันราคา  ให้เลียนโมเดล สินค้าเกษตร  ยางพารา  ข้าว  ทำไมลำไยไม่มีบ้าง ซึ่งการประกันลำไย แต่ละเบอร์ ยกตัว เบอร์ AA ราคา 20 บาท/กิโลกรัม ,เบอร์ A  ราคา 15 บาท/กิโลกรัม , เบอร์ B ราคา   5-7 บาทต่อกิโลกรัม และเบอร์ C ราคา 2 บาทต่อกิโลกรัม โดยแต่ละขนาดหากซื้อราคาต่ำกว่าที่ประกันก็ให้รัฐบาลชดเชยให้ ในปริมาณจำกัดโควตา แล้วแต่จะพิจารณา 5,000 ถึง 1 หมื่นตัน แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาให้

 

เปิดโมเดล "ประกันราคา" ลำไย

 

ต้องทำควบคู่กับจ่ายเงินเยียวยาไร่ละ 2,000 บาท และอุดช่องโหว่ทุจริตปีที่แล้ว เกษตรกรแจ้งเท็จ และไม่ใช่ชาวสวนตัวจริง แค่ซื้อที่ดินไว้ ต้องรัดกุมอย่าให้ซ้ำรอยปีที่แล้ว นอกจากในเรื่องดังกล่าวนี้ควรมีกฎหมายเป็น พ.ร.บ.อุตสาหกรรมลำไยเพื่อความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรของการค้า เช่น การออกประกาศราคารับซื้อ ไร้กฎเกณฑ์ นึกอยากจะตั้งราคาเท่าไรก็ได้ เปลี่ยนตามใจ เกิดจากการผูกขาด แต่ถ้ามีกฎหมายตัวนี้ออกมาจะช่วยทำให้การค้ามีความเป็นธรรม

 

ส่วนประเด็นสุดท้ายเรื่องตลาดลำไย  มีอยู่ 3 ประเทศ จะมีหลัก อาทิ ประเทศจีน สัดส่วน 60% อินโดนีเซีย และเวียดนาม 20% ลักษณะไปที่อินโดนีเซีย  จะสั่งซื้อเป็นลำไยสด แล้วไปอบที่ประเทศ ถ้าไปเวียดนาม ลำไยช่อที่ผิดสวย ต้องไม่มีกละดำ ส่วนประเทศจีน ก็มีลักษณะเป็นตลาดผูกขาด

 

ดังนั้นจะต้องเพิ่มขยายตลาดช่องทางมากขึ้น  หมายความถ้ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนหากมีความสัมพันธ์ทีดี ก็จะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ให้ดีคงไว้เพื่อไม่มีปัญหากระทบตลาด ส่วนตลาดภายในจะให้เกษตรกรไปขายก็คงยาก เพราะค่าน้ำมันไปกลับ ก็ไม่ไหว  แต่ถ้าส่งผ่านไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นให้รัฐบาลมาสนับสนุน จะเป็นการช่วยขยายตลาดในประเทศหลากมิติ

 

อย่างไรก็ดี นายธวัชชัย กล่าวการที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไยภาคเหนือ เพราะหมวกหนึ่ง ก็เป็นข้าราชการการเมือง มีเรื่องวินัยมากำกับ แต่ผมก็ปรึกษานักกฎหมายว่าพูดได้ไหม เพราะการสะท้อนปัญหาเป็นแค่สื่อกลางกระบอกเสียงให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อน ไม่น่าจะผิดอะไร แล้วก็ไม่ได้โจมตีใคร

 

“ลำไย ในอำเภอปะแดด”  เป็นอำเภอที่มีลำไยเยอะมาก มีคุณภาพด้วย อย่างน้อยผมก็มาจากประชาชน มาจากการเลือกตั้ง ตอนที่พี่น้องลำบากก็ขอร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยด้วยกัน และเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะมาช่วยกันแก้ปัญหา