นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ทำงานอย่างหนักในการดูแลเรื่องค่าครองชีพให้กับประชาชนซึ่งมีการสั่งตรึงราคาสินค้าสำคัญ มาตั้งแต่ต้นและโดยเฉพาะเดือน ธ.ค.2564-ปัจจุบัน(8เดือน)
เป็นช่วงที่มีสินค้าขอขึ้นราคาจำนวนมาก แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่อนุญาต โดยเห็นได้จากสถิติการขอขึ้นราคาของผู้ผลิต รวม 127 ครั้ง 11 หมวดสินค้า 61 บริษัท 116 ยี่ห้อ สินค้า 936 รายการ
ไม่ว่าจะเป็นทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม ผงซักฟอก ผ้าอนามัย น้ำยาล้างจานและอื่นๆแต่กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งให้มีการ ตรึงราคาได้ 6-19 เดือนเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน ซึ่งสามารถประหยัดรายจ่ายเงินในกระเป๋าประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ตรึงราคาไว้ที่ 6 บาทจากเดิมขอปรับราคาเป็นซองละ7บาทและได้ขอขอขึ้นราคามา 19 เดือน หรือเกือบ 2 ปี
ที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ให้ปรับราคาซึ่งสามารถประหยัดเงินได้ 20,900 ล้านบาท ใน 11 หมวดที่ไม่ให้ขึ้นราคา ทำให้ประหยัดเงินประชาชนได้ถึง 98,287 ล้านบาท เกือบ 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้สินค้าใน11หมวดประกอบด้วย
1. หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์
2.หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง
3.หมวดปัจจัยทางการเกษตร
4.หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
5.หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์
6.หมวดวัสดุก่อสร้าง
7. หมวดสินค้าเกษตรที่สําคัญ
8.หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค
9.หมวดอาหาร
10.หมวดอื่น ๆ
11.หมวดบริการ
" และถ้าจะนับย้อนไปนโยบายการตรึงราคานี้ กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการมาทั้งหมด 19 Lot มีทั้งลดราคาสินค้าหมวดสำคัญที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค ชุดนักเรียนในช่วงก่อนเปิดเรียนทุกปีและไม่ว่าจะเจอสภาวะใดก็มอบหน้าที่ให้กรมการค้าภายในหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อขอความร่วมมือการตรึงราคา
ทั้งนี้โมเดลที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์จากนโยบายท่านรองนายกจุรินทร์ ขณะเดียวกันทางกระทรวงพาณิชย์ก็มอนิเตอร์ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด คำนวณต้นทุนอย่างสมดุลและเป็นธรรมตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและทางผู้ประกอบการก็ไม่ค้ากำไรเกินควร "