นายสัตว์แพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า กรมปศุสัตว์มีหน้าที่ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในสัตว์ กำกับดูแลกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้มีคุณภาพมาตรฐานอาหารปลอดภัยต่อผู้บริโภค และบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ได้ตรวจสอบเข้มงวดในการนำเข้าซากสัตว์และการเคลื่อนย้ายสัตว์ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดในสัตว์ ขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์และชิ้นส่วนที่ผิดกฎหมายจากต่างประเทศ ที่ไม่มีเอกสารการเคลื่อนย้ายหรือขออนุญาต หรือโดยสำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าอื่น จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พร้อมหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ รายงานและดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
กรมปศุสัตว์ โดยด่านกักกันสัตว์หนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคอีสาน ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม และเจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักงานศุลกากรจังหวัดหนองคาย ได้ดำเนินการยึดซากสัตว์ทั้งหมดรวม 9,454 กิโลกรัม
โดยวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ได้ตรวจยึดสินค้าซากสัตว์ทั้งหมดจำนวน 5,176 กิโลกรัม เป็นชิ้นส่วนหูสุกรแช่แข็ง จำนวน 40 กล่อง น้ำหนัก 480 กิโลกรัม ตีนไก่แช่แข็ง จำนวน 58 กล่อง น้ำหนัก 696 กิโลกรัม เนื้อสุกรแช่แข็ง จำนวน 4,000 กิโลกรัม
ต่อมา ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ได้ตรวจยึดสินค้าประเภทซากสัตว์ทั้งหมด 4,278 กิโลกรัม เครื่องในไก่แช่แข็ง (กึ๋นไก่) กล่องละ 16 กิโลกรัม จำนวน 98 กล่อง น้ำหนัก 1,568 กิโลกรัม เครื่องในไก่แช่แข็ง (กึ๋นไก่) กล่องละ 10 กิโลกรัม จำนวน 20 กล่อง น้ำหนัก 200 กิโลกรัม และชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง (ตีนไก่) กล่องละ 10 กิโลกรัม จำนวน 251 กล่อง น้ำหนัก 2,510 กิโลกรัม ในการกระทำความผิดตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์กับกรมศุลกากร เรื่องปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร ด่านศุลกากรจึงขอส่งมอบของกลางดังกล่าว ให้กับด่านกักกันสัตว์หนองคาย เพื่อดำเนินการตามอำนาจต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์หนองคายได้รับมอบของกลางดังกล่าว และดำเนินการทำลายของกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาศัยอำนาจตามระเบียบกรมปศุสัตว์ ว่าด้วยการดำเนินการกับสัตว์หรือซากสัตว์ของกลางที่เป็นโรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรคระบาด ซึ่งถูกยึดหรืออายัดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์หรือตามกฎหมายอื่น พ.ศ. 2558
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตรวจสอบคุมเข้มป้องกันการลักลอบนำเข้า ทำลายแหล่งเนื้อเถื่อน และลงโทษผู้กระทำความผิด นอกจากนี้ได้ตรวจสอบห้องเย็นเพื่อกันการกักตุนสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง