ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

29 ส.ค. 2565 | 04:40 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2565 | 14:19 น.

“อลงกรณ์”เผยเจรจาเวียดนามสำเร็จ จับมือไทยยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก เตรียมเสนอรัฐมนตรีเกษตรฯสองประเทศ “เฉลิมชัย-เล มิน ฮวาน”ตั้งกลไกขับเคลื่อน พร้อมขยายการค้าสินค้าเกษตรสองชาติหลังปี 64 พุ่งกว่า 7.4 หมื่นล้าน เผยเวียดนามชอบข้าวหอมมะลิไทย

 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย (29 ส.ค)ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตาม ที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายว่า  ในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ประสบความสำเร็จในการขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและการค้าระหว่าง 2 ประเทศโดยเฉพาะผลการประชุมหารือความร่วมมือด้านข้าวกับนายเจิ่น แทงห์ นาม (H.E. Mr. Tran Thanh Nam)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทและคณะผู้บริหารระดับสูง ณ นครเกิ่นเทอ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เวียดนามยืนยันอย่างแข็งขันและมุ่งมั่นในการร่วมมือกับไทยยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

 

สำหรับการเจรจาครั้งนี้เป็นการเจรจารอบที่ 2 ต่อจากการประชุมหารือที่ฝ่ายไทยเสนอข้อริเริ่มให้มีความร่วมมือร่วมกันยกระดับราคาข้าวที่กรุงเทพฯเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรทั้ง 2 ฝ่ายคือ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายเล มิน ฮวาน (Mr. Le Minh Hoan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาได้ทราบและเห็นด้วยในหลักการจนนำมาสู่การเจรจาล่าสุด

 

“นับเป็นความสำเร็จและเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยและเวียดนามซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิต และส่งออกข้าวอันดับที่ 2 และ 3ของโลกตกลงร่วมมือกันเพื่อยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก เป็นงานที่ยากและยังมีภารกิจที่ท้าทายรออยู่เบื้องหน้าจะสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ยังตอบไม่ได้แต่วันนี้เราได้เริ่มเดินก้าวแรกร่วมกันแล้วในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านการเกษตร”

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

 

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ไทย-เวียดนาม เห็นตรงกันว่าราคาข้าวในตลาดโลกไม่เป็นธรรมกับประเทศผู้ผลิตและชาวนา ของทั้งสองประเทศมาเป็นเวลายาวนาน นำมาซึ่งหนี้สินและความยากจนจึงถึงเวลาที่ต้องต่อสู้เพื่อชาวนา ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือราคาข้าวในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งราคาปุ๋ยและราคาน้ำมันจากผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

 

ดังนั้นหากปล่อยสถานการณ์ราคาข้าวเป็นอยู่เช่นนี้ชาวนาจะอยู่ไม่ได้ จากขาดทุนและหันไปทำเกษตรอื่นที่มีรายได้มากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตข้าวลดลงในระยะยาวกระทบต่ออุปทานข้าวของโลกสวนทางกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและปัญหาความมั่นคงด้านอาหารจะรุนแรงมากขึ้น

 

“ทั้ง 2 ฝ่ายจะนำเสนอผลสรุปของการประชุมเสนอต่อรัฐมนตรีเกษตรของ 2 ประเทศเพื่อตั้งกลไกขับเคลื่อนร่วมกันในรูปของคณะทำงานเฉพาะกิจ และให้แจ้งสมาคมชาวนา สมาคมผู้ค้าข้าว สถาบันอาหารและสมาคมผู้ส่งออกข้าวของไทยและเวียดนามได้ทราบถึงแนวทางความร่วมมือดังกล่าว รวมทั้งจะเจรจาความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อื่น ๆต่อไป”

 

ระหว่างนี้จะกระชับความร่วมมือด้านข้าวระหว่างไทยกับเวียดนามในระดับองค์กรชาวนาและหน่วยงานด้านการเกษตรให้มากขึ้นซึ่งนายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยมีส่วนสำคัญต่อการประสานความร่วมมือระหว่างสองประเทศในครั้งนี้

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

 

นายอลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายยังเห็นตรงกันที่จะเพิ่มการค้าสินค้าเกษตรให้มากขึ้นและสมดุลมากขึ้น ทั้งนี้จากสถิติการค้าในปี 2564 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับเวียดนามอยู่ที่ 74,214 ล้านบาท โดยไทยนําเข้า 25,465 ล้านบาท และส่งออกไปเวียดนาม 48,750 ล้านบาท ฝ่ายไทยได้ดุลการค้า 23,285 ล้านบาท โดยเฉพาะการค้าข้าวระหว่างสองประเทศยังสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเวียดนามนอกจากจะเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวแล้วยังนำเข้าข้าวปีละ 1.2 ล้านตัน และไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวไปเวียดนามเป็นอันดับที่ 4สามารถเพิ่มการส่งออกข้าวไปสนับสนุนเวียดนามได้เพิ่มขึ้นนับเป็นตลาดที่ใกล้ตัวและคนเวียดนามนิยมข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ

 

รายงานข่าวเผยว่า ในระหว่างการเยือนครั้งนี้นายอลงกรณ์และคณะประกอบด้วยนายจักรกริช เรืองขจร รองกงสุลใหญ่นครโฮจิมินห์ นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯฯ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรเวียดนามยังได้เยี่ยมชมสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว แปลงข้าวและการใข้เครื่องจักรกลเกษตรเทคโนโลยีเกษตรโดยมีนายเจิ่น แทงค์ นาม รมช.เกษตรและชนบทเวียดนาม และดร.เจิ่น  หงับ ถัดห์ ผอ.สถาบันวิจัยข้าวสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนำชมอย่างใกล้ชิด

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”ไทย-เวียดนาม”จับมือดันราคาข้าวตลาดโลกช่วยชาวนา

 

นอกจากนี้ยังได้พบปะหารือกับชาวนา โรงสีข้าวและสหกรณ์การเกษตรที่หมีเว้ย (My Quoi agricultural cooperative)ที่จังหวัดเตี่ยน ซาง (Tiền Giang Province)รวมทั้งสำรวจตลาดข้าวในนครโฮจิมินห์ด้วย