สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดดยอ้างอิงข้อมูลจาก https://vietnamnews.vn/ ว่า จากรายงานของสมาคมบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปโลก (World Instant Noodles Association : WINA) เวียดนามได้แซงหน้าเกาหลีใต้เป็นผู้นําการบริโภคบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปต่อหัวของโลกในปี 2564
โดยตามรายงานของบริษัท Nongshim ผู้ผลิตบะหมี่ชั้นนำในเกาหลีใต้ ในปี 2562 อัตราการบริโภคต่อคนของเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 55 หน่วยบริโภค เป็น 72 หน่วยบริโภคในปี 2563 และในปี 2564 เป็น 87 หน่วยบริโภค ซึ่งเกาหลีใต้บริโภคเป็น 73 หน่วยบริโภค และในเนปาล เป็น 55 หน่วยบริโภค
ตัวแทนจากบริษัท Nongshim กล่าวว่า เวียดนามมีกำลังซื้อสูง และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้คนมักจะทานอาหารที่บ้านมากกว่าทานนอกบ้านเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
ข้อมูลระบุว่าหลังจากการระบาดของโควิด-19 การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนามพุ่งสูงขึ้น แซงหน้าประเทศอินเดีย และญี่ปุ่น โดยในปี 2563 เวียดนามกลายเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปริมาณ 7 พันล้านซอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 8.5 พันล้านซองเพิ่มขึ้นร้อยละ 22
มีการเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทประมาณ 50 แห่งที่ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงบริษัทในประเทศและต่างประเทศ ที่นำโดยบริษัท Acecook กับแบรนด์บะหมี่ Hao Hao บริษัท Masan Consumer กับแบรนด์บะหมี่ Omachi แบรนด์บะหมี่ Kokomi และบริษัท Asia Food แบรนด์บะหมี่ Red Bear ไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัท Uniben กับแบรนด์บะหมี่ 3 Mien เข้าสู่ตลาดเวียดนามอย่างแข็งแกร่งและกลายเป็นผู้ขายบะหมี่รายใหญ่อันดับสี่
ในปี 2538 บริษัท Acecook เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และประสบความสำเร็จในการสร้าง แบรนด์บะหมี่ Hao Hao ซึ่งเป็นบะหมี่ประจำชาติของเวียดนาม และครองส่วนแบ่งการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
สำหรับแบรนด์ต่างประเทศ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีใต้ได้รับความนิยมในตลาด เวียดนาม โดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาว ตามกระแส Hallyu ที่นำวัฒนธรรมเกาหลีใต้มาสู่เวียดนาม ผ่านภาพยนตร์ และดนตรี อาหารเกาหลีใต้เช่น กิมจิ ข้าวปั้น ต็อกบุกิ บะหมี่รสเผ็ด เป็นต้น ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
บริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีใต้ เช่น บริษัท Paldo Vina และบริษัท Nongshim แบรนด์บะหมี่ Shin มีรายได้แสนล้านเวียดนามด่งจากตลาดเวียดนาม บริษัท Paldo Vina นำเข้าผลิตภัณฑ์โดยตรงจากเกาหลีใต้ เช่น Jjajangmen บะหมี่รวมซอสดำ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าบะหมี่ที่ผลิตในตลาดท้องถิ่น ถึงสี่เท่า
สคต. ณ กรุงฮานอย ได้วิเคราะห์ ผลกระทบว่า ตามรายงานของสมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลก ในปี 2564 คนเวียดนามกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดย เฉลี่ย 87 ซอง ซึ่งครองอันดับที่ 1 ของโลก หลังจากแซงหน้าเกาหลีใต้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพตลาดเวียดนาม สำหรับสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แนวโน้มการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของชาวเวียดนามยังคงอยู่ในอัตราที่สูง
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนามมีการแข่งขันที่รุนแรง มีผู้ผลิตทั้งที่เป็นยี่ห้อดั้งเดิมในประเทศ และยี่ห้อที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งแบรนด์ต่างประเทศที่มีการมาตั้งโรงงานผลิตในเวียดนามเพื่อลดต้นทุน ขณะที่พฤติกรรมการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของชาวเวียดนามมีความหลากหลาย ตั้งแต่บริโภคในชีวิตประจำวัน ในช่วงเวลาเร่งด่วน บริโภคตามกระแสความนิยม ในระดับราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่ 4,500 –29,000 เวียดนามด่ง หรือประมาณ 6–39 บาท
ดังนั้นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้องการขยายตลาดมาในเวียดนาม ควรมีการศึกษา คู่แข่ง และตลาดเป้าหมายเพื่อที่จะสามารถกำหนดราคาและวิธีการทำการตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนามมีการแข่งขันที่รุนแรง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้า ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการบริโภคสินค้าที่เป็นไปตามเทรนด์สามารถจ่ายได้ในราคาสูงยังมีเพียงส่วนน้อย การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างมากในการเข้าสู่ตลาดเวียดนาม