เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 สืบเนื่องจากสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย เข้าร่วมประชุมกับกรมการข้าวเพื่อหารือเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนสนใจ ก็คือ “ข้าวจัสมิน” หรือที่เป็นที่รูักจัก "ข้าวหอมพวง" ข้าวหอมเวียดนาม โดยมติที่ประชุมจะขอความร่วมมือ เร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่โดยเฉพาะระดับจังหวัดให้ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงผลกระทบของการปลูกข้าวจัสมินต่อระบบการผลิตข้าวของประเทศ โดยขอความร่วมมือมิให้โรงสีข้าวรับซื้อพันธุ์ข้าวดังกล่าว และให้ทางสมาคมแจ้งสมาชิกให้งดผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์จัสมิน
ต่อจากกรณีดังกล่าวนี้ นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกกิตติมศักดิ์โรงสีข้าวไทย และ ที่ปรึกษาสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ปัจจุบันตัวเลขประมาณการพื้นที่ปลูกข้าวจัสมิน ก็ประมาณ 2 ล้านไร่ หากมีนโยบายออกมา จะมีประเด็นอีก ถ้าหาก ขอความรวมมือมิให้โรงสีรับซื้อข้าว จัสมิน ชาวนาจะเดือดร้อน โรงสีจะถูกด่า ซึ่งทางที่ดีคือ พัฒนาหาพันธุ์ที่ดีกว่า ที่ตอบโจทย์ชาวนาให้ชาวนามีทางเลือก ดีกว่าขอความร่วมมือโรงสีมิให้รับซื้อ
“กรมการข้าวต้องรีบดำเนินการหาพันธุ์ดี ตอบโจทย์ ชาวนา ตอบโจทย์ตลาด และประชาสัมพันธ์ ให้ชาวนาได้มีทางเลือกที่ดีกว่า เพราะเหตุผลใดชาวนาจึงเลือกที่จะปลูก และไม่เลือกที่จะปลูก ในข้าวแต่ละชนิดพันธ์ และอะไรคือตัวตอบโจทย์ชาวนา ในการตัดสินใจเพาะปลูกข้าวแต่ละชนิด”
เช่นเดียวนายวินิจ เลาห์ทวีรุ่งเรือง ผู้จัดการ หจก.ต.ทวีรุ่งเรือง (1992) จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายข้าวสุพรรณบุรี (ข้าวจัสมิน” บรรจุถุงขาย สีเขียว) กล่าวว่า ข้าวจัสมิน เป็นข้าวที่เกษตรกรปลูกกันเอง ข้าวไม่ได้ส่งเสริม เพราะหากมองพันธุ์ข้าวที่ไม่ได้รับรองเต็มทุ่งนาไปหมด ถ้าห้ามชาวนา ก็ควรจะไปคุยกับเกษตรกร จะเชื่อหรือไม่ แล้วกรมการข้าวมีพันธุ์ที่เหมือนกับข้าวจัสมินออกมาหรือ มีพันธุ์ที่ใกล้เคียงในท้องตลาดหรือยัง
ที่ผ่านมาก็มีออกมาบ้าง แต่ยังหาพันธุ์ที่ดีกว่ายาก ยกตัวอย่าง กข87 ผลผลิตต่อไร่ก็ไม่สูง ระยะเวลาปลูก 110-115 วัน เกษตรกรก็บางคนก็ไม่นิยม บางที่ก็ต้องทำนาแข่งกับน้ำ เพราะเดี๋ยวน้ำแล้ง ท่วม ก็ขึ้นอยู่กับเกษตรกรที่จะใช้พันธุ์อะไรปลูกพิจารณามากกว่า แล้วหากชาวนาไม่ปลูกจริง ผมไม่เดือดร้อน ไม่มีจัสมิน ก็ซื้อข้าวตัวอื่นทดแทนไป
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายประสงค์ ประไพตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาถึงอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ประสานแจ้งโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวไม่รับซื้อข้าวหอมพวงในราคาสูง เช่นเดียวกับข้าวหอมทุมธานี 1 เพื่อลดแรงจูงใจในการปลูกข้าวหอมพวงของชาวนาที่พยายามหาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมพวงมาปลูกโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพการปะปนพันธุ์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (คลิกอ่าน)
อนึ่ง การประชุมหารือความร่วมมือดำเนินการด้านเมล็ดพันธุ์ข้าว "จัสมิน"