วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ถึงโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ทั้ง โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง และโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ว่า
ขณะนี้ได้สั่งการกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 และ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง หากเสร็จแล้วทั้งจีน ลาว ไทย จะสามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถส่งทุเรียนหมอนทองไปมอบให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ เป็นการลดต้นทุน เพิ่มโอกาส SME และเกษตรกรไทย และยังเป็นอีกช่องทางสำหรับผู้ที่จะทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน ซึ่งจีนให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาก และขอให้ไทยเร่งดำเนินการ
ขณะเดียวกันจีนยังให้ความสนใจโครงการ Landbridge มากเช่นกัน และต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น หากโครงการเกิดขึ้น จะมีการเชื่อมกันและจีนได้ขอข้อมูลผลการศึกษาโครงการเนื่องจากจีนเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการดังกล่าว ซึ่งจะเกิดผลดีทั้งจีนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมอบหมายให้ทีมที่ทำการศึกษาโครงการดังกล่าว ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปให้ รวมทั้งการเชิญชวนมาลงทุนด้วย
“การมี Landbridge จะช่วยลดเวลาการส่งออกได้ 4 วัน สามารถประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการได้ 15% ช่วยประหยัดน้ำมัน ทำให้ต้นทุนถูกลง ผู้บริโภคก็ซื้อของในราคาที่ถูกลงด้วย ได้ผลดีทั้งระบบ โดยจะดำเนินการควบคู่กับเรื่องพลังงานสเขียวด้วย และยังตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฮับโลจิสติกส์ สร้างโอกาสการจ้างงาน และการซื้อขายสินค้า”
สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เชิญชวน บริษัท Xiaomi ให้มาสร้างโรงงานผลิตรถ EV ที่ประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานในประเทศ ซึ่งไทยได้พูดคุยกับประเทศในอาเซียน และมีบทบาทในเวทีอาเซียน จะเป็นอีกข้อเสนอสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศด้วย