thansettakij
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เดือนมีนาคม โอนรอบสุดท้ายวันไหน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เดือนมีนาคม โอนรอบสุดท้ายวันไหน

17 มี.ค. 2568 | 23:23 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2568 | 01:00 น.

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เดือนมีนาคม กรมบัญชีกลาง โอนรอบสุดท้ายวันไหน ใครบ้างได้รับสิทธิ์ได้กี่บาท เช็กที่นี่

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 กรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิ จำนวน 14.5 ล้านรายไปแล้ว 2 เดือน สำหรับในเดือนมีนาคม กรมบัญชีกลาง ได้โอนให้ผู้ได้รับสิทธิไปแล้ว 1 รอบ ดังนี้

วันที่ 1 มีนาคม 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน  
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 68)  
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

วันที่ 20  มีนาคม  2568  ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินให้ผู้รับสิทธิดังนี้

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน  สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน ภายใน 26 ธ.ค. 67 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

  บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนมีนาคม ใช้จ่ายอะไรบ้าง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนมีนาคม ใช้จ่ายอะไรบ้าง

ภาพรวมการใช้จ่าย สวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 - 28 กุมภาพันธ์ 2568

สวัสดิการพื้นฐาน ให้ต่อเนื่อง

  • สินค้าอุปโภคบริโภค 3,915.54 ล้านบาท
  • ก๊าซหุงต้ม 37.89 ล้านบาท
  • ระบบขนส่งสาธารณ 132.24 ล้านบาท

รวม 4,085.67 ล้านบาท

สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (ด้วยเลขประจำตัวประชาชน) /บัญชีเงินฝาก ธนาคาร

  • เพิ่มเบี้ยคนพิการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 จำนวน 256.56 ล้านบาท

รวม 256.56 ล้านบาท

 

ภาพรวมการใช้จ่าย สวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 ภาพรวมการใช้จ่าย สวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 - 28 กุมภาพันธ์ 2568

สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ ค่าไฟฟ้า

  • ค่าไฟฟ้า 217.25 ล้านบาท
  • ค่าน้ำประปา 25.98 ล้านบาท

รวม 243.23 ล้านบาท.

ที่มา: