นายนิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง ใน กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงขั้นตอนหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติ และคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคืนอำนาจให้ฝ่ายบริหารในการกำหนดเวลา และสถานที่ ห้ามขายโดยย้ำว่า
แม้ว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะผ่านในขั้นของ สส.ไปแล้วแต่ยังต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ของวุฒิสภา (สว.) ก่อนตามลำดับถ้าผ่านความเห็นชอบตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งวาระ 1 วาระ 2 และวาระ 3 จะมีการเสนอลงพระปรมาภิไธยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบทั้งในส่วนของกฤษฎีกาตามขั้นตอนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ต่อไป
จากนั้นจะส่งกฎหมายไปยังราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
"ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ทางวุฒิสภาจะรับไปพิจารณาก่อนจะนำเสนอในขั้นตอนของวุฒิสภาซึ่งโดยส่วนตัวไม่มั่นใจว่า จะเสร็จทันก่อนปิดสมัยประชุมปลายเดือนเมษายนนี้หรือไม่ ถ้าไม่ทันคาดว่าจะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณารายละเอียดดังกล่าว โดย กมธ.ที่เกี่ยวข้องคงจะไปทำในช่วงที่มีการปิดประชุมและเมื่อมีการเปิดประชุมครั้งหน้าจึงจะนำมาพิจารณากันในรายละเอียดวาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป"
นายนิพนธ์ กล่าวย้ำว่า ในช่วงเวลานี้กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่มีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน ยังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น จึงต้องยึดตามหลักการณ์ของกฎหมายฉบับเดิมไปก่อน รวมถึงกรณีที่มีการระบุให้ยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 พ.ศ.2515
ดังนั้น เมื่อ พ.ร.บ.ยังไม่ได้มีการประกาศใช้เท่ากับคำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ยังไม่ถูกเลิกแต่อย่างใดซึ่งเป็นไปตามหลักการณ์และกระบวนการของกฎหมาย