เปิดโผ! ทุนจีน พันธมิตร ITD ก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม พบ 3 คนไทยถือหุ้น 51%

29 มี.ค. 2568 | 01:41 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มี.ค. 2568 | 04:32 น.

เปิดโครงสร้างการถือหุ้น "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" พันธมิตร ITD  ผู้รับเหมาก่อสร้างตึกสตง. ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว มูลค่า 2.1 พันล้านบาท พบทุนจีนถือหุ้นเต็มเพดาน 49% มีคนไทย 3 รายถือหุ้นรวม 51% งบการเงินล่าสุดขาดทุนกว่า 199 ล้านบาท

รายละเอียดโครงการอาคาร สตง. ที่ถล่ม

ฐานเศรษฐกิจ - จากกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

ฐานเศรษฐกิจได้ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า โครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สตง. แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น มูลค่าก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาที่ สตง. ได้ทำกับกิจการร่วมค้า ไอทีดี - ซีอาร์อีซี ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563

ข้อมูลบริษัทจีนที่ร่วมก่อสร้างตึก สตง.

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริการด้านทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัย สถานที่ทำการ ทางรถไฟ ทางรถสาธารณะ และทางรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมี "นายชวนหลิง จาง" และ "นายโสภณ มีชัย" เป็นกรรมการบริษัท

สถานะทางการเงินน่าเป็นห่วง

งบการเงินล่าสุดประจำปี 2566 ของบริษัทที่ร่วมก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ถล่ม มีสินทรัพย์รวม 2,804,535,819.09 บาท ขณะที่มีหนี้สินรวมสูงถึง 2,952,877,175.76 บาท มีรายได้รวม 206,253,951.38 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 354,955,975.63 บาท ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิในปี 2566 ถึง 199,669,872.43 บาท

โครงสร้างผู้ถือหุ้น: ทุนจีน-ไทยในบริษัทก่อสร้างตึก สตง.

ที่น่าสนใจคือโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ถล่ม ซึ่งข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 คือ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป คัมปะนี" จากประเทศจีน ถือหุ้นในสัดส่วน 49% คิดเป็นจำนวน 490,000 หุ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดที่กฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้

ส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยประกอบด้วย "นายโสภณ มีชัย" ถือหุ้นในสัดส่วน 40.80% คิดเป็นจำนวน 407,997 หุ้น และ "นายประจวบ ศิริเขตร" ถือหุ้น 10.20% คิดเป็นจำนวน 102,000 หุ้น ส่วนที่เหลือเป็นของ "นายมานัส ศรีอนันท์" ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น คิดเป็น 0.00% 

เครือข่ายธุรกิจของโสภณ มีชัย กรรมการบริษัทก่อสร้างตึก สตง.

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า "นายโสภณ มีชัย" ซึ่งเป็นทั้งกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของบริษัทที่ร่วมก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ถล่ม ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ อีก 5 แห่ง ได้แก่:

  • บริษัท ไฮห่าน จำกัด (ค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์) ถือหุ้น 51%

  • บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด (นำเข้า-จำหน่ายเสื้อผ้า) ถือหุ้น 25.50%

  • บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด (อาหารเสริมและเครื่องสำอาง) ถือหุ้น 10%

  • บริษัท ไซเบอร์ เทเลคอม จำกัด (อุปกรณ์เครือข่าย) ถือหุ้น 60%

  • บริษัท เอที แคปปิตอล โซลูชั่น จำกัด (เสร็จการชำระบัญชี) ถือหุ้น 60%

ธุรกิจของ ประจวบ ศิริเขตร ผู้ถือหุ้นบริษัทก่อสร้างตึก สตง.

ขณะที่ "นายประจวบ ศิริเขตร" ผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ของบริษัทที่ร่วมก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ถล่ม เป็นนักธุรกิจที่มีการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ รวม 6 แห่ง โดยหลายบริษัทเกี่ยวข้องกับธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่:

  • บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง) ถือหุ้น 27.90%

  • บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (ชิ้นส่วนยานยนต์) ถือหุ้น 9.08%

  • บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด (พิธีการศุลกากร) ถือหุ้น 37.48%

  • บริษัท โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (อี-คอมเมิร์ซ) ถือหุ้น 30%

  • บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม) ถือหุ้น 20%

  • บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (อสังหาริมทรัพย์) ถือหุ้น 12%

เครือข่ายธุรกิจของนายมานัส ศรีอนันท์ ผู้ถือหุ้นบริษัทก่อสร้างตึก สตง.

ส่วน "นายมานัส ศรีอนันท์" แม้จะถือหุ้นเพียง 3 หุ้นใน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แต่กลับเป็นนักธุรกิจที่มีการลงทุนในบริษัทหลากหลายธุรกิจถึง 11 แห่ง ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มานัส ศรีอนันท์ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ดังนี้:

  • บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (ชิ้นส่วนยานยนต์) ถือหุ้นสูงถึง 45.03% 

  • บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วัสดุก่อสร้าง) ถือหุ้น 52.10%

  • บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด (นำเข้าเครื่องอุปโภคบริโภค) ถือหุ้น 48.00% 

  • บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด (พิธีการศุลกากร) ถือหุ้น 62.48% 

  • บริษัท โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (อี-คอมเมิร์ซ) ถือหุ้น 40.00% 

  • บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด (อาหารเสริมและเครื่องสำอาง) ถือหุ้น 70.00%

  • บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม) ถือหุ้น 31.00%

  • บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด (นำเข้าเสื้อผ้า) ถือหุ้น 25.50% 

  • บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (อสังหาริมทรัพย์) ถือหุ้น 12.00% 

  • บริษัท บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (ขนส่งเอกสาร) ถือหุ้น 1.00% (เสร็จการชำระบัญชี)

  • บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด (รับเหมาก่อสร้าง) ถือหุ้น 0.00% จำนวน 3 หุ้น