นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน NEW ENERGY : แผนพลังงานชาติ สู่ความยั่งยืน จัดโดยหนังสือพิมพ์”ฐานเศรษฐกิจ”ภายใต้หัวข้อ “การขับเคลื่อนพลังงานสะอาดด้วยนวัตกรรม”ว่าปตท. ยึดถือความมั่นคงทางด้านพลังงาน ในอดีตเราอาจพูดถึงการมีพลังงานที่เพียงพอใช้ แต่ในมิติใหม่ เรามอง 3 มิติ หรือ SAS คือ Security หรือความมั่นคงทางด้านพลังงาน , Affordable ราคาสมเหตุสมผล และ Sustainability หรือความยั่งยืน
โดย Security ต้องมีความพร้อมหากมีความต้องการ Affordable ราคาที่ใช้ต้องทำให้เศรษฐกิจเติบโต Sustainability จะทำให้โลกดีขึ้นอย่างไร ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ปตท. ยึดหลักตรงนี้เพื่อสร้างให้เกิดความสมดุล เมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน เราต้องผ่านพ้นวิกฤต ไปได้
ในเรื่องพลังงานประเทศไทยมีพลังงานเพียงพอ ไม่ได้ขาดแคลนพลังงาน แต่ประเทศไทยใช้เงิน 2 ล้านล้านบาท ในการนำเข้าพลังงาน หรือ เกือบ 80% ของพลังงานที่นำเข้าจากต่างประเทศ ในเรื่องราคา ในช่วงโควิด ราคาน้ำมันถูกลงมา ช่วงหลังโควิด มีการใช้งานมากขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น
ส่วนเรื่องของพลังงานทดแทน อย่างก๊าซธรรมชาติ ปตท.ทำมานาน ต้องบอกว่าเรามีเสถียรภาพเพราะว่ามีปริมาณมากและก็มีราคาที่ค่อนข้างต่ำ แต่พอเกิดสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น อย่างไรก็ตามก็ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ทางด้านพลังงานทดแทนขึ้นมา อย่างเช่น ไฮโดรเจน
“พลังงานสะอาดที่เราจะมาแทนคือการใช้นวัตกรรมไปในรูปแบบของไม่ว่าจะเป็นพลังงานทดแทนหรือระบบจัดเก็บพลังงานต่างๆ เรื่องไฮโดรเจน และ EV แวลูเชน และก้าวไปทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ Life Science โมบิลิตี้ โรโบติกส์”
นายบุรณิน กล่าวต่อไปอีกว่า ปตท.เดินยุทธศาสตร์ที่ทำให้สามารถแข่งขันกับบริษัทข้ามชาติระดับโลก และประชาชนสามารถเชื่อใจได้ว่าให้บริการพลังงานในราคาที่เหมาะสม ขณะที่พลังงานทดแทน สามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้