นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีการประมูลสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีแนวโน้มสูงว่าผู้ชนะคือบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เนื่องจากคู่แข่งคือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ BTS ถูกกีดกันไม่ให้เข้าประมูล ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายของรัฐบาลกว่า 68,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มเมื่อปี 2563 รฟม. ภายใต้การกำกับดูแลของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลังออกประกาศเชิญชวนได้มีเอกชนยื่นซองตาม ซึ่งมีบริษัทเอกชนที่ดำเนินกิจการเดินรถไฟฟ้า 2 เจ้าใหญ่ในประเทศไทย คือ BTS และ BEM เข้าร่วมประมูล
สำหรับการประมูลรอบที่ 2 นี้มีข้อน่ากังขาหลายประการ มีการล็อกสเปคด้วยการนำเอาผู้รับเหมาก่อสร้าง มาเป็นคู่เทียบการเดินรถโดยเสนอราคาที่สูงเกินราคากลาง จนกล่าวได้ว่ามีการกีดกันการแข่งขันไม่ให้ BTS เข้าร่วม จนไม่เกิดการแข่งขันกันจริง ๆ นอกจากนี้ ยังมีความเร่งรีบผิดปกติในขั้นตอนการพิจารณาซองที่ 2 :ข้อเสนอด้านเทคนิค 11 กล่อง ซึ่งปกติต้องใช้เวลาหลายเดือน แต่ รฟม. กลับพิจารณาเสร็จภายใน 10 วันเท่านั้น
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ สุรเชษฐ์ เตรียมเชิญทั้ง BTS และ รฟม. มาชี้แจงในที่ประชุมอนุกรรมาธิการ ในวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม เวลา 14:00 โดยจะขออนุญาตที่ประชุมทำการ Live การชี้แจงในครั้งนี้ด้วย และขอเชิญประชาชนทุกคนร่วมติดตามประเด็นนี้ไปด้วยกัน
“จากข้อมูลเชิงลึกที่ได้มา หากไม่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ระหว่างการประมูลในปี 2563 ในรอบแรก BTS จะเป็นผู้ชนะโดยรัฐอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาทเท่านั้น แต่ด้วยเงื่อนไขการประมูลในปัจจุบัน กลายเป็นว่ารัฐจะต้องอุดหนุนเงินให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มแก่ BEM คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสูงถึง 78,288 ล้านบาท นำไปสู่คำถามสำคัญ ว่าส่วนต่าง 68,613 ล้านบาทหายไปไหน และเหตุใดประชาชนต้องมาแบกความรับผิดชอบนี้”