เริ่มแล้ว กยท. ทุ่มงบ 12 ล้าน รับซื้อปลาหมอคางดำ เฟส 2 วันแรก

07 ก.พ. 2568 | 06:43 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 06:55 น.

บิ๊ก กยท. สนองนโยบายรัฐ -เกษตรฯ ทุ่มงบ 12 ล้าน รับซื้อปลาหมอคางดำ กิโลฯละ 20 บาท เฟส 2 วันแรก (7 ก.พ.68) ผ่านแพปลา - จุดรวบรวมที่ลงทะเบียนกับกรมประมง ตั้งเป้ารับซื้อปลากว่า 6 แสนกิโลกรัม ส่งผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพฯ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำยางและพืชผลการเกษตรอื่นๆ

นายสุขทัศน์ ต่างวิรยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่าการยางแห่งประเทศไทยมีความพร้อมดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำภายใต้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 2โดยใช้งบประมาณเงินทุนหมุนเวียน มาตรา 13 รับซื้อปลาหมอคางดำจากแพปลาหรือจุดรับซื้อที่ประกาศโดยกรมประมง ซึ่ง กยท. จะจ่ายเงินให้กับจุดรับซื้อในราคา 20 บาท/กิโลกรัม (กก.) (แบ่งเป็นค่าปลาที่จ่ายให้กับชาวประมงหรือผู้จับปลามาขาย 15 บาท/กก. และจ่ายให้กับแพปลาที่กรมประมงประกาศเป็นจุดรับซื้อ เป็นค่าบริหารจัดการรวบรวมขนส่งไปยังจุดผลิตน้ำหมักชีวภาพฯ5 บาท/กก.)

เริ่มแล้ว กยท. ทุ่มงบ 12 ล้าน รับซื้อปลาหมอคางดำ เฟส 2  วันแรก

ทางกรมประมงมีการเปิดรับสมัครแพปลาที่สนใจเป็นผู้รวบรวมปลาหมอคางดำ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. -วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมาและจะประกาศจุดรับซื้อปลาภายในวันนี้( 7 ก.พ.68) โดยพร้อมเปิดจุดรับซื้อทันทีสำหรับกยท. เองได้รวบรวมใบสมัครของจุดผลิตน้ำหมักชีวภาพ จากกยท.ทั้ง 7เขต ทั้งที่เป็นกลุ่มสถาบันเกษตรกรและหมอดินอาสาเพื่อนำข้อมูลมาวางแผนการรับวัตถุดิบจากแพปลาและจุดรวบรวมปลาในโครงการฯ เพื่อส่งเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำต่อไป

“กยท. หวังว่าการเข้าไปรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อนำมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพฯจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เพื่อรักษาระบบนิเวศให้เกิดความสมดุลซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการนำของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ให้ความสำคัญในการมุ่งแก้ปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง”

เริ่มแล้ว กยท. ทุ่มงบ 12 ล้าน รับซื้อปลาหมอคางดำ เฟส 2  วันแรก

นายสุขทัศน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับซื้อปลาหมอคางดำมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพที่มีประสิทธิภาพ ยังเกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง โดยหลังจากที่ กยท. นำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำที่แปรูปในล็อตแรกไปจัดสรรให้กลุ่มชาวสวนยางกลุ่มแปลงใหญ่ทั่วประเทศเห็นผลได้ชัดว่าสามารถช่วยให้ต้นยางเจริญเติบโตได้ดี กรีดยางง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มผลผลิตยางรวมไปถึงมีคุณสมบัติช่วยบำรุงพืชเกษตรชนิดอื่นๆ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรได้มากขึ้นด้วย

อนึ่ง เฟสแรก การยางแห่งประเทศไทย (กยท. ) ได้เข้าไปบูรณาการกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำที่ส่งผลต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ โดย กยท.ใช้งบประมาณ มาตรา 13 พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ในวงเงิน 50 ล้านบาท ภายใต้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง โดยมีวงเงิน ในการรับซื้อและเป็นค่าบริหารจัดการเพื่อรวบรวมปลาหมอคางดำจากเกษตรกร ชาวประมง และประชาชนทั่วไป รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท (ราคารับซื้อ 15 บาท/กิโลกรัม) ดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นมา

เริ่มแล้ว กยท. ทุ่มงบ 12 ล้าน รับซื้อปลาหมอคางดำ เฟส 2  วันแรก

โดย ปัจจุบัน กยท. ได้ดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำแล้วทั้งหมด 600,000 กิโลกรัม ตามเป้าหมายโครงการฯ ที่ตั้งไว้ ซึ่ง กยท. ได้ส่งปลาหมอคางดำสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพ โดยกรมพัฒนาที่ดิน จำนวน 178,039 กิโลกรัม และสถาบันเกษตรกรรับไปดำเนินการผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ จำนวน 421,961 กิโลกรัม ได้ส่งมอบให้กับเกษตรกรชาวสวนยางเรียบร้อยแล้ว