บุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อน ชาวบ้านสุดทนเสียง กลิ่น ยึดของกลางอื้อ

28 มี.ค. 2568 | 06:14 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2568 | 06:14 น.

ปศุสัตว์สนธิตำรวจสอบสวนกลางบุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อนในเขตคลองสามวา ยึดของกลางอื้อ ชาวบ้านสุดทนเสียง-กลิ่น-น้ำเสีย

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้ส่งชุดเฉพาะกิจกองสารวัตรและกักกัน สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตราฐานสินค้าปศุสัตว์ ปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการฆ่าสัตว์ที่บ้านหลังหนึ่งในแขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากกรณีการร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ ผ่านระบบ DLD 4.0 ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการฆ่าสัตว์ ส่งกลิ่นเหม็น ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น และไม่ถูกสุขลักษณะ

บุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อน ชาวบ้านสุดทนเสียง กลิ่น  ยึดของกลางอื้อ

เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจและสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานครสืบหาตำแหน่งที่ตั้งและวันเวลาที่ทำการฆ่าสัตว์ พบว่า เจ้าของประกอบกิจการฆ่าสัตว์ภายในบ้านตนเอง โดยมีโรงเรือนเลี้ยงวัวในพื้นที่ประมาณ 10-20 ตัวและฆ่าสัตว์ในช่วงเวลา 20.00 น. - 00.00 น. ทุกวัน วันละ 1-3 ตัว จากนั้นจึงวางแผนเข้าจับกุม โดยส่งสายสืบไปซุ่มดูจนสถานที่ดังกล่าวเริ่มฆ่าสัตว์ในเวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบ พบว่า เป็นสถานที่ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีพนักงานตรวจโรคสัตว์ คณะเจ้าหน้าที่จึงแจ้งแก่หญิงเจ้าของสถานที่ว่า มีความผิดตามพ.ร.บ. ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 ดังนี้

- มาตรา 15 ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 56 จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

- มาตรา 31 วรรคหนึ่ง ฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่าสัตว์ มีโทษปรับตามรายชนิดสัตว์ได้แก่ ซากโค-กระบือ ตัวละ 50,000 บาท

- มาตรา 37 ชำแหละหรือตัดแต่งซากสัตว์ที่ไม่ได้รับรองโดยพนักงานตรวจโรคสัตว์ มีความผิดตามมาตรา 56 จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

บุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อน ชาวบ้านสุดทนเสียง กลิ่น  ยึดของกลางอื้อ

- มาตรา 39 วรรค 1 ฆ่าสัตว์นอกโรงฆ่าสัตว์ มีความผิดตามมาตรา 56 จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ได้ยึดซากโค 1 ตัว รวมถึงอุปกรณ์ประกอบการฆ่าสัตว์ทั้งหมดเช่น มีด ตะขอเหล็กลับมีด เป็นต้น มูลค่ารวมกว่าแสนบาท ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนิมิตใหม่ พนักงานเจ้าหน้าที่ทำบันทึกจับกุม และบันทึกการควบคุมตัวตามมาตรา 22 และ 23 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการทรมาน และกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ส่งพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลนิมิตรใหม่ เพื่อเป็นหลักฐาน ในการดำเนินการแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ จนกว่าคดีจะสิ้นสุดกระบวนการตามกฎหมาย ส่วนซากโคซึ่งเป็นของกลาง 382.25 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จะขอรับไปทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ต่อไป

 

สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งนายอิทธิ ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเนื่องจากการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีกระบวนการฆ่าสัตว์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ตลอดจนไม่ทราบแหล่งที่มาของสัตว์และเป็นสัตว์ไม่ได้ผ่านการตรวจโรคมาก่อน เนื้อสัตว์ที่ชำแหละและนำไปวางจำหน่ายให้กับผู้บริโภคปนเปื้อนเชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดที่สำคัญ

บุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อน ชาวบ้านสุดทนเสียง กลิ่น  ยึดของกลางอื้อ

หรืออันตรายจากสารตกค้างเช่น สารเร่งเนื้อแดง ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดโปรดแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที