นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 รายได้เข้ายื่นหนังสือขอให้กรมการค้าภายในพิจารณาปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เร็วที่สุด เนื่องจากภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นนั้น ทางกรมฯ รับปากพิจารณาให้เร็วที่สุด ซึ่งกรมฯ ได้รับทราบสถานการณ์และข้อมูลต้นทุนของผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่าต้นทุนบางรายการมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนด้านพลังงานที่เป็นทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อม รวมถึงวัตถุดิบหลัก เช่น แป้งสาลี น้ำมันปาล์มก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เป็นผลสืบเนื่องจากทั้งปัญหาโควิด-19 และวิกฤตด้านพลังงาน ซึ่งกรมฯ จะพิจารณาเป็นรายไปตามการร้องขอ โดยยังคงยึดหลักการ วิน-วิน โมเดล ที่ผู้ประกอบการต้องยังคงผลิตและจำหน่ายสินค้าต่อไปได้ไม่ขาดแคลน และผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และล่าสุดยังไม่ได้อนุมัติให้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นหากมีการฉวยโอกาส ในการกักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่าย จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า กล่าวว่า ในวันนี้เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการรวม 5 ราย ยื่นหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้พิจารณาในการปรับราคาโดยเร็วที่สุดเนื่องจากเวลานี้ต้นทุนของผู้ประกอบการมีการปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและกำลังประสบปัญหาการขาดทุน หากยังไม่ได้รับการพิจารณา อาจจำเป็นต้องมีการปรับ
สัดส่วนการขายเป็นการส่งออกมากขึ้น แต่ทางผู้ผลิตยืนยันว่าจะไม่เลิกขายในประเทศอย่างแน่นอน และขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าของไม่ขาดแน่นอนแต่ที่จะขาดแคลนคือการกักตุนสินค้า ย้ำยังไม่เต็มกำลังการผลิตเพราะยังคงเห็นความสำคัญของตลาดในประเทศ อาจพิจารณาใช้การบริหารจัดการต้นทุนในรูปแบบอื่นๆในระหว่างรอการพิจารณาปรับขึ้นราคา เพื่อลดการขาดทุนให้น้อยลง โดยต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเวลานี้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเกินซองละ 1 บาทไปแล้ว