นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าทั้งไทยและซาอุฯมีความเห็นร่วมกันว่าให้มีการทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งรัฐมนตรีตอบรับข้อเสนอ และจะเริ่มเดินหน้าจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับ GCC ที่มี 6 ประเทศ ประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน โอมาน ยูเออี กาตาร์ และคูเวต โดยซาอุดีอาระเบียจะช่วยประสานงานและผลักดันร่วมกับประเทศไทยต่อไป เพื่อให้เกิด FTA ไทย-GCC ต่อไปในอนาคต
โดย ไทยยังได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย (JTC) ไทย-ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งรัฐมนตรีตอบรับ และได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและหน่วยงานของซาอุดีอาระเบียเริ่มเจรจาได้ในทันที เพื่อทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (Memorandum of Coorperation - MOC) โดยเร็วที่สุด เพื่อจะจัดตั้ง JTC ต่อไป ให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน ไทยและซาอุดีอาระเบียจะให้การสนับสนุนและส่งเสริมการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบีย โดยเป็นการจัดตั้งสภาในรูปแบบที่มีองค์กรเอกชนของทั้ง 2 ประเทศมาร่วมกันในการทำงาน ซึ่งได้มีการลงนาม MOU จัดตั้งกันแล้ว ทั้งนี้ไทยพร้อมให้การสนับสนุน ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้าง ทั้งในรูปการให้บริการการก่อสร้าง
วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยเฉพาะทางด้านอาหารและได้ขอให้องค์การอาหารและยาซาอุดิอาระเบีย (SFDA) หรือ อย. ของซาอุดีอาระเบีย เร่งส่งเจ้าหน้าที่ ตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย เพื่อให้การรับรองส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียได้ ซึ่งรับรองแล้ว 11 โรงงาน ยังมีอีกอย่างน้อย 28 โรงงาน ที่มีศักยภาพส่งออกไก่มาซาอุดีอาระเบียได้ ซึ่งทางซาอุฯได้ตอบรับและสั่งการให้ SFDA เร่งประสานงานดำเนินการ
ส่วนประเด็นที่ภาคเอกชนยังติดขัดปัญหาในการเดินทางมาทำการค้าและการลงทุนในซาอุดีอาระเบีย เรื่องการขอวีซ่า ซึ่งปัจจุบันการขอวีซ่า จำเป็นที่จะต้องได้รับหนังสือเชิญจากบริษัทคู่ค้าของซาอุดีอาระเบีย ทางการซาอุดิอาระเบียจึงจะพิจารณาวีซ่าให้นั้น ทางซาอุฯจะเร่งแก้ปัญหานี้โดยเร็วโดยหลังจากนี้จะใช้แค่หนังสือรับรองจากสภาภาคเอกชนของไทยเท่านั้น จะทำให้การขอวีซ่าของภาคเอกชนที่เดินทางมาที่นี่สะดวกขึ้นต่อไปในอนาคต