นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวระหว่างพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีให้กับบุตร-หลานสมาชิกสหกรณ์ ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ทำข้อตกลงร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย และมหาวิทยาลัยแม่โจ้
โดยจะจัดสรรดอกผลจากเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) มาสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาสัตวแพทยศาสตร์ และสาขาสัตวศาสตร์ ให้กับบุตร – หลานสมาชิกสหกรณ์ ผู้เลี้ยงโคนม จำนวน 145 ทุน ซึ่งเป็นทุนอุดหนุนจ่ายขาดให้ตลอดหลักสูตรกำหนดระยะเวลาของโครงการไว้ 3 ปี ตั้งแต่ ปีการศึกษา 2566 – 2568
โดยแบ่งเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 30 ทุน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน 30 ทุน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 15 ทุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 18 ทุน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 49 ทุน และมหาวิทยาลัยขอนแก่น 3 ทุน ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ต่อยอดจากปี 2560 ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับสถานศึกษาต่าง ๆ ดำเนินโครงการความร่วมมือทางการศึกษาเพื่อสานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนม โดยเปิดโอกาสบุตร – หลานสมาชิกสหกรณ์โคนม
หรือสหกรณ์การเกษตรที่สมาชิกเลี้ยงโคนม เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีสาขาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพเลี้ยงโคนม ได้แก่ สาขาสัตวแพทยศาสตร์ และสาขาสัตวศาสตร์ และกรมฯ ได้จัดสรรดอกผลจากเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์มาสนับสนุนเป็นทุนการศึกษา เพื่อให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมได้นำความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย กลับไปต่อยอดอาชีพเลี้ยงโคนมและพัฒนาฟาร์มโคนมของครอบครัว
เพื่อช่วยพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมและธุรกิจของสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีบุตร - หลานสมาชิกสหกรณ์ได้รับทุนการศึกษาแล้ว 29 คน เป็นสาขาสัตวแพทยศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวม 17 คน และสาขาสัตวศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวม 12 คน เงินทุนศึกษาตลอดหลักสูตร รวม 8.08 ล้านบาท
สำหรับวงเงินจากดอกผลของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมไว้เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์โคนมและสหกรณ์การเกษตรที่มีสมาชิกเลี้ยงโคนม ในเบื้องต้นขณะนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 30 ล้านบาท โดยมีหลักเกณฑ์ คือ ทางสถานศึกษาจะจัดสรรโควตาในการรับนิสิตนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี กรมส่งเสริมสหกรณ์จะสนับสนุนทุนการศึกษาให้จนจบหลักสูตร และสหกรณ์ที่สมาชิกสังกัดอยู่อาจร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายอื่นให้เพิ่มเติมนอกเหนือจากทุนการศึกษา
ซึ่งเมื่อบุตร-หลานสมาชิกสหกรณ์ที่ขอรับทุนดังกล่าวได้เรียนจนจบการศึกษาแล้ว มาปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นที่ปรึกษาของสหกรณ์เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามข้อตกลงกับสหกรณ์
“เป็นที่ทราบดีว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพพระราชทานซึ่งเริ่มในประเทศไทยมาประมาณ 50 กว่าปี ขณะนี้เกษตรกรสมาชิกผู้เลี้ยงโคนมมีอายุมากขึ้น กรมฯ จึงมีแนวทางว่าจะให้บรรดาสมาชิกสหกรณ์ กรรมการสหกรณ์ที่มีลูกหลานที่ยังมีอายุอยู่ในวัยเรียนได้มาเข้ารับทุนการศึกษา โดยเป้าหมายอยากให้สหกรณ์โคนมทั่วประเทศที่อยู่ประมาณ 105 แห่ง ชุมนุมสหกรณ์ จำนวน 8 แห่ง มีสมาชิกมากกว่า 20,270 ครอบครัว จะได้มีคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านวิชาการและทักษะเทคโนโลยีทางการเกษตรแนวใหม่กลับมาพัฒนาฟาร์ม
สานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนม และสนับสนุนให้เข้าไปทำงานในสหกรณ์โคนม หรือกลับมาช่วยดูแลฟาร์มโคนมอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ จะเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพการเลี้ยงโคนม รวมทั้งอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่เหล่านี้กลับมาเป็นผู้บริหารสหกรณ์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้องค์กรสหกรณ์มีความเข้มแข็ง เป็นกำลังที่สำคัญในการขับเคลื่อน พัฒนาสหกรณ์และชุมชนให้เจริญก้าวหน้า และในโอกาสต่อไป
กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีแนวโน้มที่จะขยายความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการจัดสรรโควตารับนิสิตเข้าศึกษาต่อ รวมทั้งจะดึงสหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ด้วย
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ (MOU) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารฝึกอบรมส่วนกลาง สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
มีศาสตราจารย์ ดร.สุวัจน์ ธัญรส อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย รศ.น.สพ.ดร.อนุชัย ภิญโญภูมิมินทร์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดร.อานนท์ ปะเสระกัง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ รศ.น.สพ.ดร.สนธยา เตียวศิริทรัพย์ รองคณบดีวิชาการ วิรัชกิจและกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมในการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว