นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่า มีร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) บางแห่ง มีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น คิดค่าบริการกับลูกค้าที่ชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หักหัวคิว) หรือมีพฤติกรรมรับแลกเงินสดจากผู้ถือบัตรฯ หรือขายสินค้าไม่ตรงกับราคาป้ายที่แสดง หรือไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ประกอบกับกระทรวงการคลังได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรฯ
โดยเพิ่มวงเงินให้แก่ผู้ถือบัตรฯ จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ย. – ต.ค. 2565) จากเดิมเพิ่มเป็น 400 หรือ 500 บาทต่อคนต่อเดือน และเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50 หรือ100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่ต.ค. 2564 – ก.ค. 2565 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. – ก.ย. 2565) รวมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ที่เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565
กรมการค้าภายในจึงได้มีการดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ติดตามตรวจสอบร้านธงฟ้าที่ถูกร้องเรียน โดยมีการเพิกถอนสิทธิร้านธงฟ้าไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 121 รายผลการตรวจสอบพบการกระทำผิด ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ จำหน่ายสินค้าให้ผู้ใช้สิทธิคนละครึ่งในราคาสูงกว่าลูกค้าที่ชำระด้วยเงินสด และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะหากถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ หากเป็นร้านธงฟ้าจะถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และถูกตัดสิทธิการรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากประชาชนพบเห็นร้านค้ามีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค หรือทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ