“พาณิชย์” ลุยตลาดสิงคโปร์ ดันส่งออกสินค้าเกษตร

25 ก.ย. 2565 | 05:34 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2565 | 12:39 น.

“พาณิชย์” ลุยตลาดสิงคโปร์ ดันส่งออกสินค้าเกษตร  ทั้งนม ข้าว และผลไม้ พร้อมหารือกับผู้บริหารแฟร์ไพรซ์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตอันดับ 1 ของสิงคโปร์ที่นำเข้าสินค้าไทย เดินหน้าถกเพิ่มความร่วมมือพัฒนา SMEs และการค้าออนไลน์

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 26-28 กันยายนนี้ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์   เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์เพื่อหารือความร่วมมือส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังตลาดสิงคโปร์ และการพัฒนาศักยภาพ SMEs สู่การค้ายุคใหม่

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพของไทย ที่มีการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ต่างๆ ในตลาดสิงคโปร์ อาทิ ผลิตภัณฑ์นม ข้าว และผลไม้ โดยจะได้พบหารือกับผู้บริหารแฟร์ไพรซ์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตอันดับ 1 ของสิงคโปร์ ซึ่งนำเข้าสินค้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์การขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยผ่านชายแดนมาเลเซียมายังสิงคโปร์ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ตลาดค้าส่งปาเซอร์ ปันจังอีกด้วย

 

“พาณิชย์” ลุยตลาดสิงคโปร์ ดันส่งออกสินค้าเกษตร

นอกจากนี้ จะได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานบ่มเพาะสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ ซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบนิเวศที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมทั้งจะหารือต่อยอดความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกับ Shopee แพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ คือ การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 8 ของไทยในโลก โดยในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2565) การค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มีมูลค่า 11,288.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+21.35%) โดยแบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 6,447.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+28.98%) และการนำเข้ามูลค่า 4,840.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+12.49%)

“พาณิชย์” ลุยตลาดสิงคโปร์ ดันส่งออกสินค้าเกษตร

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ (ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป) น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า