นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถร่วงหล่นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน - นาโคก ที่ กม. 34+000 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ว่า กรมทางหลวงได้รายงานผลการเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงการดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ที่ประสบเหตุทั้งหมด และหลังจากได้ข้อสรุป ผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงฯ และกรมทางหลวงแล้ว จะรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ทราบโดยเร็ว คาดว่าไม่เกินวันที่ 25 สิงหาคม 2565 เบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของกรมทางหลวง และเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อลงโทษต่อไป ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซงใดๆ
ส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงชุดที่กรมทางหลวงตั้งขึ้น ซึ่งมีนายนรินทร์ ศรีสมพันธุ์ วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง เป็นประธานนั้น ได้รับรายงานว่า ได้มีการจัดประชุมและลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยได้เรียกผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการซ่อมแซมปรับปรุงสะพานกลับรถดังกล่าวมาให้ข้อมูล ขั้นตอนการทำงาน การควบคุมงานก่อสร้าง พร้อมรวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุที่แน่ชัด หลังจากนี้กรมทางหลวงจะได้หารือร่วมกับ วสท. และสภาวิศวกร เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานบูรณะสะพานกลับรถตัวนี้ เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทาง
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคมมีความกังวลและความเชื่อมั่นในความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในการเดินทาง จึงมีข้อสั่งการให้กระทรวงฯ จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้าง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุของการถล่มของคานสะพานกลับรถดังกล่าว และรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
ทั้งนี้กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยการประชุมในครั้งนี้คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสืบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ โดยมี นายเอนก ศิริพานิชกร เป็นประธานอนุกรรมการ และมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจาก วสท. เป็นอนุกรรมการ ได้รายงานว่ามีการลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ การตรวจสอบแบบ Visual Inspection การตรวจสอบความสมบูรณ์แข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ส่วนที่เหลือหลังจากที่ยกคานลงแล้ว ด้วยวิธี 3D Scanner ตรวจสอบขนาดของเสาและปริมาณเหล็กโดย Ferro Scan และ Rebound Hammer โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า โครงสร้างคานสะพานและระบบพื้นบนคานสะพานช่วงระหว่างเสา ยังมีความมั่นคงแข็งแรงและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดการวิบัติหรือเสียเสถียรภาพซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาในขณะนี้ และจะสร้างความมั่นใจในการใช้สะพานกลับรถ ด้วยการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของสะพานที่บูรณะแล้วเสร็จต่อไป