SCB ปิดดีลขายหุ้น SCBLife ให้ FWD รับเงิน 92,700 ล้านบาท
SCB ปิดดีลขายหุ้น SCBLife กับ FWD รับเงิน 92,700 ล้านบาท ตั้งนายเดวิด โครูนิช เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ SCBLife โบรกเผยเป็นบวกต่อประมาณการกำไร SCB ไตรมาส 3
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ได้แจ้งต่อตลท. เกี่ยวกับการตกลงขายหุ้นในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (SCBLife) และการจะเข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารระยะยาวกับ FWD Group Financial Services Pte. Ltd. และมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ของธนาคารเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ซึ่งอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวตามที่แจ้งให้ตลท.ทราบก่อนหน้าแล้วนั้น ปัจจุบันการขายหุ้นได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว และธนาคารได้เข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562
ทั้งนี้ ภายใต้การขายหุ้นดังกล่าว ธนาคารได้รับเงินทั้งสิ้น 92,700 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดกำไรจากธุรกรรมการขายหลังหักภาษีประมาณ 11,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารจะทยอยรับรู้เงินจำนวน 17,700 ล้านบาท เป็นรายได้ตลอดระยะเวลา 15 ปี ตามนโยบายบัญชีของธนาคาร โดยผลของกำไรจากธุรกรรมการขายนี้ต่อกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2562 ของธนาคารยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจที่ธนาคารจะต้องพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ ธนาคารยังจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดช่วงระยะเวลาความร่วมมือในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร โดยการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือด้านประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด ระบุว่า การขายเงินลงทุนใน SCBLife ให้แก่กลุ่ม FWD ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2562 ถือว่ามีนัยเชิงบวกสำหรับ SCB ต่อประมาณการกำไรปี 2562 โดยเฉพาะงวดไตรมาส 3 ปีนี้ โดยจะรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนใน SCBLife ทันที 11,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ยังมีรายได้ที่จะทยอยรับรู้เพิ่มขึ้นจากค่าตัดจำหน่ายการใช้ช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทุกช่องทางของ SCB มูลค่ารวม 17,700 ล้านบาท เป็นเวลา 15 ปี คิดเป็นไตรมาสละ 295 ล้านบาท แม้ SCB อาจต้องเสียรายได้บางส่วนจากการจัดทำงบรวมกับ SCBLife แต่ระยะยาวเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อ SCB มากกว่าในรูปแบบธุรกิจที่เป็น Open Architecture
ขณะเดียวกัน ยังรอดพ้นจากการบันทึกผลขาดทุนจำนวนมากของ SCBLife จากผลกระทบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางถึงยาวที่ปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากการจัดทำงบการเงินรวมกับ SCBLife สิ้นสุดถึงวันที่ 26 กันยายน 2562 ซึ่งในส่วนของธุรกิจประกันชีวิตนั้น จะมีการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหนี้สินตามสัญญาประกันภัย (LAT Reserve) ณ วันสิ้นงวดทุกไตรมาส ทำให้ SCB ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนมหาศาลด้งกล่าวในงบการเงินรวมเช่นที่กังวลมาตลอดแล้ว รวมถึงคาดหวังปันผลพิเศษได้ประมาณ 1-2 บาทต่อหุ้น รวมกับปันผลปกติที่คาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 เท่ากับ 4.25 บาทต่อหุ้น ให้ส่งผลให้มีผลตอบแทนรวมถึง 4.39-5.23% สำหรับงวดครึ่งปีหลังปีนี้
ส่วนนายเสถียร เลี้ยววาริน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะยังคงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโส เพื่อช่วยสนับสนุนให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนที่จะกลับเข้าไปร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ต่อไป