ปลาร้า กะปิ น้ำบูดู รอดภาษีความเค็ม

20 ต.ค. 2562 | 03:39 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2562 | 10:43 น.

    สรรพสามิต ยัน เก็บภาษีความเค็มจากโซเดียมใช้เพิ่มรสชาติ ไม่เก็บส่วนใช้ถนอมอาหารเด็ดขาด ระบุ อยู่ระหว่างเลือกมาตรฐานโซเดียมเหมาะสมควรบริโภคต่อวัน ก่อนกำหนดอัตราภาษี มั่นใจเสร็จภายในปีนี้

   นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีความเค็ม ว่า ยืนยันว่าการเก็บภาษีความเค็มจากโซเดียมจะเก็บเฉพาะที่ใช้ในการเพิ่มรสชาติอาหารเท่านั้น แต่ในส่วนของร้านค้า ธุรกิจชุมชนที่มีการใช้ความเค็มเพื่อการถนอมอาหาร เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม กุ้งแห้ง ปลาร้า ปลาเจ่า ปลาส้ม ปลาจ่อม กะปิ น้ำบูดู ไม่เข้าข่ายที่จะต้องเสียภาษีความเค็ม รวมถึงสินค้ากลุ่มเครื่องปรุง เช่น น้ำปลา เกลือ ซีอิ้วขาว และร้านค้าข้าวแกง อาหารตามสั่ง ก๊วยเตี๋ยว ก็จะไม่เสียภาษีด้วย

ปลาร้า กะปิ น้ำบูดู รอดภาษีความเค็ม

   สำหรับอัตราการเก็บภาษีความเค็มจากโซเดียมที่ใช้ในการเพิ่มรสชาติอาหาร อยู่ระหว่างการพิจารณาปริมาณความเค็ม ว่าจะใช้มาตรฐานของหน่วยงานใดเป็นตัววัด เนื่องจาก องค์การอนามัยโลก ให้คำแนะนำปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมต่อร่างกาย คือ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หากเฉลี่ยต่อมื้อก็ไม่ควรเกิน 600 มิลลิกรัม แต่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ให้คำแนะนำปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมต่อร่างกาย คือ 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน เฉลี่ยต่อมื้อก็สูงขึ้นอีกเล็กน้อย ดังนั้นจะต้องหาข้อสรุปดังกล่าวก่อน เพื่อมากำหนดอัตราภาษีที่จัดเก็บจากฐานการบริโภคต่อมื้อที่เหมาะสมว่าควรเป็นเท่าไร

   “ยืนยันว่านโยบายของภาครัฐ ไม่ได้ต้องการจัดเก็บรายได้เยอะๆ อย่างเดียว แต่ต้องการให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมลดปริมาณโซเดียมในอาหารลง เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือมีโทษน้อยที่สุด เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า สินค้าอาหารในไทยส่วนใหญ่ ถึง 60% มีค่าโซเดียมที่เกินกว่าคำแนะนำ เช่น ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงอาหารกระป๋องต่างๆ”นายณัฐกร กล่าว

   นายณัฐกร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดูว่าจะใช้ปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมต่อร่างกายเท่าไร หาก 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เฉลี่ยต่อมื้อก็ไม่ควรเกิน 600 มิลลิกรัม เราก็อาจจะเว้นจัดเก็บภาษีสินค้า 1 ห่อ ที่มีโซเดียมไม่เกิน 600 มิลลิกรัม แต่ก็ต้องดูว่าเราจะใช้ค่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือของกระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกันบางสินค้ายังมีสัดส่วนของการใช้โซเดียมเพื่อเพิ่มรสชาติและถนอมอาหารรวมอยู่ด้วย ก็จะใช้วิธีแยกปริมาณโซเดียมเหล่านี้ว่าทำอย่างไร

   อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีดังกล่าว กรมจะให้เวลากับผู้ประกอบการในการปรับตัว เช่นเดียวกับการขึ้นภาษีความหวาน และออกแนวทางการจูงใจให้ผู้ประกอบกาคเข้ามามีส่วนร่วมในการลดความเค็ม เพราะหากบังคับมากเกินไป อาจจะกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการได้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้

 

ปลาร้า กะปิ น้ำบูดู รอดภาษีความเค็ม