ตามที่สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เข้าพบเพื่อคัดค้านข้อเสนอของกลุ่มสภาอุตสาหกรรมยายนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ที่เรียกร้องให้ปรับลดภาษียานยนต์ลง 50% หลังยอดขายตกจากผลกระทบของ Covid-19
นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ว่า การปรับลดราคารถยนต์ป้ายแดง จะส่งผลเสียทำให้วงจรของรถยนต์มือ 2 รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบในวงกว้างตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมข้างเคียงอย่างรุนแรง นอกเหนือจากจะทำให้รัฐสูญเสียภาษี 40,000-100,000 บาทต่อคันแล้ว โดยการบิดเบือนราคารถยนต์จะส่งผลเสียเช่นเดียวกันกับช่วงมีนโยบายรถยนต์คันแรกที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบมีปัญหา
ทั้งนี้หากกรมสรรพสามิต ปรับลดอัตราภาษีให้กับรถยนต์มือ 1 จริง จะทำให้การขยายตัวของตลาดรถยนต์มือ 2 ปีนี้ปรับตัวลดลงมากกว่า 20% จากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 145,000 ล้านบาท แน่ หลังจากไตรมาสที่ 1 ปรับตัวลดลงกว่า 25% แล้ว จากปัญหา Covid-19 และสินเชื่อที่ตึงตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่อยากให้กรมสรรพสามิตปรับลดอัตราภาษีตามข้อเสนอของสอท.
"ตอนนี้แนวโน้มไตรมาส 2 ตลาดของรถยนต์มือ 2 ก็จะปรับลดลงอย่างน้อยอีก 25% ดังนั้นไม่อยากให้เกิดการแทรกแซงราคากันอีกเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบพังทลาย ซึ่งในวันทื่ 28 พ.ค.สมาคมฯ จะมาประชุมร่วมกับกรมสรรพสามิตและสภาอุตสาหกรรมยานยนต์อีกครั้ง เพื่อรับฟังข้อสรุปว่าเป็นอย่างไร
ด้านนายองอาจ พงศ์กิจวรสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ระบุว่าอยากให้กรมฯเร่งพิจารณามาตรการออกมาให้เร็วขึ้น เนื่องจากพอมีกระแสข่าวออกไป ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ลงอีก จากเดิมที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำอยู่แล้ว เพราะทุกคนต้องการรอใช้มาตรการ
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปีนี้คาดว่ายอดการผลิตมีโอกาสจะไม่ถึง 1 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นขายในประเทศได้เพียง 5 แสนคัน และส่งออกอีก 5 แสนคัน เพราะช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมายอดขายปรับลดลงมาก ดังนั้นมองว่า หากรัฐบาลมีมาตรการออกมาก็จะช่วยภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้
ทั้งนี้ที่ผ่านมา อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุขอดูข้อมูลของสอท.และสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์มือ 2 ก่อนว่าเป็นอย่างไร ถึงจะสามารถพิจารณาในรายละเอียดได้ทั้งหมด และนำเสนอแนวทางให้นายอุตตม สานายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาต่อไป