ราคาทอง วันนี้ พุ่งไม่หยุด ปรับขึ้นอีก 20 ดอลลาร์ ทำนิวไฮต่อเนื่อง

06 ส.ค. 2563 | 23:59 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2563 | 09:04 น.

ราคาทอง ตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 20.1 ดอลลาร์

ราคาทอง สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 20.1 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 2,069.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 5.62% ปิดที่ 28.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 24.8 ดอลลาร์ หรือ 2.51% ปิดที่ 1,013.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 43.90 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 2,259.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราคาทอง ในประเทศพุ่งต่อ ทองคำแท่งขายออก 30,000 บ.

เตือน!ราคาทองคำอิ่มตัว

ดาวโจนส์ปิดบวก 185.46 จุด ขานรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นศก.

สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% สู่ระดับ 92.8025 เมื่อคืนนี้
          

ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

นักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไม่ช้า
          

นอกจากนี้ สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจะไม่คุมเข้มนโยบายการเงินจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ธนาคารอังกฤษจะจับตาสถานการณ์ต่างๆ และพร้อมที่จะปรับนโยบายการเงินตามความจำเป็น