วานนี้ (9 ก.ย.) บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 โดยผู้ถือหุ้นได้สอบถามถึงแผนการดำเนินงานปี 2563 และแผนการปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย(SP) เพื่อให้หุ้นกลับมาซื้อขายอีกครั้ง รวมถึงแนวทางในการล้างผลขาดทุนสะสม โดยการประชุมฯครั้งนี้ผู้ถือหุ้นมีมติเอกฉันท์อนุมัติตามที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) เสนอทุกวาระ
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานกรรมการ NMG กล่าวภายหลังการประชุมฯ ว่าปัจจุบันหุ้นของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เนื่องจาก บริษัทยังไม่สามารถส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 2563 ได้ เพราะมีความล่าช้ามาในการจัดทำงบการเงินต่อเนื่อง หลังจากที่มีประเด็นเรื่องรายได้ค้างรับที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งบริษัทได้แจ้งงบการเงินงวดสิ้นปี 2562 ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2563
ทั้งนี้ คาดว่าในเดือนนี้ จะสามารถส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2563 ได้ และ คาดเดือนต.ค.-พ.ย.2563จะส่งงบการเงินงวดไตรมาส 2 ปี 2563 ทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า หุ้นของบริษัทจะกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ
ส่วนแผนการล้างขาดทุนสะสมในงบเฉพาะกิจการที่มี 3,509.30 ล้านบาท จากผลดำเนินงานสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2562 คาดว่าจะต้องใช้เวลา ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ (ทรานส์ฟอร์ม) สู่ดิจิทัล เพื่อให้ผลการดำเนินงานทิศทางที่ดีขึ้นก่อน โดยเบื้องต้นประเมินว่าในปี 2564 จะมีแผนเพื่อดำเนินการล้างขาดทุนสะสม ซึ่งปกติแล้วการล้างขาดทุนสะสมก็มี แนวทางอยู่ เช่น การเพิ่มทุนจดทะเบียน และการหาพันธมิตรใหม่เข้ามาถือหุ้นฯลฯ
นายฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NMG กล่าวว่า ในปี 2563 ถือเป็นปีที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมธุรกิจสื่อ จากดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่น และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยที่ผ่านมาบริษัททรานส์ฟอร์มมาตลอดที่จะทำธุรกิจไปสู่ดิจิทัลเฟิร์ส โดยปรับแพลตฟอร์มไปสู่ออนไลน์
ทั้งนี้จากโควิด-19 ระบาด เกิดการล็อกดาวน์ประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท ทำให้หนังสือพิมพ์ไม่สามารถวางขายได้ และไม่สามารถจัดงานอีเวนท์ได้ รายได้โฆษณาลดลง แต่บริษัทประคองตัวได้ โดยการลดค่าใช้จ่ายพนักงานลง ซึ่งพนักงานของบริษัทได้เสียสละลดเงินเดือน และบริษัทได้ปรับแผนธุรกิจตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งคาดว่าแผนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3-4 ปีนี้
ส่วนธุรกิจทีวีของบริษัทย่อย คือ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ NBC ผลกระทบไม่มากอย่างที่คาดไว้ในช่วงไตรมาส1และไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
สำหรับขณะนี้รายได้หลัก 25%ของบริษัทคือ การจัดงานอีเวนท์ ที่รายได้หายไปในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้เริ่มมีการจัดงานอีเวนท์แล้ว โดยใช้แบรนด์จากความน่าเชื่อถือและอยู่มานาน เช่น หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจในการจัดอีเวนท์ต่างๆ ฯลฯ ดังนั้นเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาดีขึ้น
จากที่มีผู้ถือหุ้นสอบถามถึงส่วนผู้ถือหุ้นของ NMG ในงวดสิ้นปี 2562 ที่มีอยู่เพียง 240.65 ล้านบาท นั้นอาจไม่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ และมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนหรือไม่ ซึ่ง นายฉาย กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยเชื่อบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้