เมื่อ 14 กันยายน ศาลล้มละลายกลาง นัดอ่านคำพิพากษากรณี บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ในฐานะผู้ร้องขอฟื้นฟูกิจการ โดยศาลพิจารณาเห็นว่า การบินไทยมีคุณสมบัติครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย จึงเห็นสมควรให้เข้าสู่กระบวนการให้ฟื้นฟูกิจการตามที่ได้มีการร้องขอ
นอกจากนั้น ศาลล้มละลายกลาง ยังได้เห็นสมควรให้บริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมถึงกรรมการบริษัทอีก 6 ราย ประกอบด้วย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน, นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการร ตามที่การบินไทยเสนอ
โดยศาลเห็นว่าบริษัท อีวาย คอร์ปอเรทฯ เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับการยอมรับ ขณะที่กรรมการทั้ง 6 ราย เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทใหญ่ ทำให้เข้าใจกิจการขนาดใหญ่เป็นอย่างดี และกระบวนการหลังจากนี้ จะนำเรื่องเข้าสู่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อแต่งตั้งผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีการประกาศให้เข้ายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน หลังจากที่มีการประกาศ
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเปิดให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นเวลา 1 เดือน ที่ กรมบังคับคดี และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อให้การบินไทยรวบรวมเจ้าหนี้ทั้งหมดว่า มีกี่ราย และคิดเป็นมูลหนี้มากน้อยเพียงใด จากนั้นจะนัดประชุมหารือเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ ซึ่งมั่นใจว่า เจ้าหนี้จะให้ความร่วมมือและเสียสละในการประนีประนอมหนี้ร่วมกัน
“เจ้าหนี้ทุกราย ทั้งธนาคาร รายใหญ่ หุ้นกู้และอื่นๆ สามารถยื่นคำร้องได้ที่กรมบังคับคดีและที่ก.ล.ต.แต่ต้องเป็นเจ้าหนี้จริง ไม่ใช่เจ้าหนี้ปลอม หากปลอมถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ส่วนเจ้าหนี้ที่เป็นลูกค้าที่ถือบัตรโดยสาร และมีวอยเชอร์ต่างๆ ไม่ต้องมายื่นเอกสารใดๆ เพราะการบินไทยจะมาตรการดูแลแยกออกจากเจ้าหนี้ปกติอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง”
ทั้งนี้เชื่อว่า กระบวนจัดทำแผนฟื้นฟูจะแล้วเสร็จและพร้อมเสนอต่อศาลภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และหากศาลเห็นชอบจะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูตามแผนภายในไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของแผนได้ เพราะต้องรอให้ศาลพิจารณาก่อน แต่ยืนยันว่า สายการบินไทยสมายล์ จะยังมีอยู่ เนื่องจากเป็นบริษัทลูกที่การบินไทยถือหุ้น 100% และยังมีศักยภาพในด้านการบินอยู่ ขณะที่การเสริมสภาพคล่องของการบินไทยนั้น จะต้องรอดูความชัดเจนของแผนด้วยเช่นกัน ว่าจะต้องมีการกู้เงินเพิ่มหรือไม่ แต่เบื้องต้นอาจต้องพิจารณากู้เงินเพิ่มเติมด้วย
ส่วนจะออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายใน 5 ปีตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่นั้น จะต้องรอการพิจารณาแผนฟื้นฟู่ก่อนเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามามี่ผลกระทบ ต่อการเดินทางของผู้โดยสาร แต่คาดการณ์ว่าสถานการณ์การบินจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 4-5 ปีหลังจากนี้
สำหรับปัจจุบัน การบินไทย มีทรัพย์สินอยู่ที่ 349,236 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินมีอยู่ที่ 352,494 ล้านบาท และมีหนี้ครบชำระ 10,248 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะยังอยู่ในระหว่างการพักชำระหนี้อัตโนมัติที่อยู่ในระบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การบินไทย เปิด 4 พื้นที่ให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้
THAI บวก 8.88% รับฟื้นฟูกิจการ