จับตาหุ้นปันผล

04 มี.ค. 2564 | 22:00 น.

บจ.ทยอยประกาศจ่ายเงินปันผลเดือนเม.ย.-พ.ค. 64 กว่า 276 บริษัท กลุ่มธนาคารพาณิชย์กลับมาจ่ายได้ หลังธปท.ไฟเขียว แม้อัตราจ่ายลดลง โบรกชี้หุ้นปันผลจะปรับตัวขึ้นเด่นในช่วง 4 เดือนแรกของปีเสมอ 

ยังคงเป็นช่วงของการประกาศจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ถึงแม้หลายบริษัทจะถูกสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เข้ามากระทบกับผลการดำเนินงานของปี 2563 แต่ยังคงประกาศจ่ายเงินปันผลตามเดิม หรืออาจจะจ่ายในอัตราที่ลดลง ก็ถือว่านักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการรอคอย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนจากทั้งสถานการณ์ภายในและต่างประเทศ ทำให้ยังมีความเสี่ยงกับการลงทุนปกติอยู่มาก 

โดยเฉพาะในภาวะที่ Bond Yield 1 ปี ของไทยลดลงมาตํ่ากว่าปกติ ล่าสุดเมื่อ 2 มีนาคม อยู่ที่ระดับ 0.52% ซึ่งตํ่ากว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ขณะที่ Bond yield 1 ปี ของสหรัฐอยู่ที่ 0.08% ดังนั้นเม็ดเงินน่าจะไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายลำดับต้นๆ น่าจะเป็นหุ้นปันผลสูง 

รายงานข่าวจากตลท.เปิดเผยว่า มีบจ.ที่ประกาศวันจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 จำนวน 276 บริษัท โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ประกาศจ่ายเงินปันผล 10 แห่ง รวมเป็นเงิน 35,272 ล้านบาท หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถจ่ายเงินปันผลงวดปี 2563 ได้ภายใต้ 2 เงื่อนไข คือ จ่ายได้ไม่เกินอัตราการจ่ายในปี 2562 และจ่ายปันผลไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิของปี 2563 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ ยังคงมีเงินกองทุนและเงินสำรองเพียงพอ เพื่อรองรับสถานการณ์เลวร้ายจากการระบาดของโควิด-19

บจ.ที่จะจ่ายเงินปันผลปี2563 สูงสุด 10 อันดับ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์ที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุด คือ บริษัท ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) หุ้นละ 6.30 บาท ลดลง 1.45 บาท จากปี 2562 จ่ายที่หุ้นละ 7.75 บาท, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) หุ้นละ 2.50 บาท ลดลง 2.50 บาท จากปีก่อนจ่ายหุ้นละ 5.00 บาท, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) หุ้นละ 2.50 บาท ลดลง 2.00 บาท จากปีก่อนจ่ายหุ้นละ 4.50 บาท, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) หุ้นละ 2.30 บาท ลดลง 1.70 บาท จากปีก่อนจ่ายหุ้นละ 4.00 บาท และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP) หุ้นละ 2.25 บาท ลดลง 2.00 บาท จาก
ปีก่อนจ่ายหุ้นละ 4.25 บาท 

ขณะที่ กลุ่มปตท. 7 บริษัท ประกาศจ่ายเงินปันผลทุกบริษัท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) หุ้นละ 0.82 บาท, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) หุ้นละ 1.00 บาท, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) หุ้นละ 2.75 บาท, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) หุ้นละ 0.70 บาท, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) หุ้นละ 0.06 บาท, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) หุ้นละ 1.00 บาท และบริษัทน้องใหม่ บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หุ้นละ 0.10 บาท 

ด้านกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน มีบจ.ที่ประกาศจ่ายปันผลสูงสุด คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) หุ้นละ 0.50 บาท, บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSH) หุ้นละ 0.65 บาท, บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AP) หุ้นละ 0.45 บาท, บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH) หุ้นละ 0.30 บาท และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) หุ้นละ 0.18 บาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัดเปิดเผยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากเงินปันผลถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดหุ้นไทย เพราะนอกจากจะชนะอัตราเงินเฟ้อแล้ว ยังดีกว่าเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของไทย ที่อยู่ในระดับ 1.2% เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างตํ่าเป็นอย่างมาก

“คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จากปี 2563 ที่อยู่ระดับ 2% ซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยประมาณ 2% ขณะที่จากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงนับตั้งแต่ปี 2558 พบว่า ช่วงเดือนก.พ.ถึงเดือนมี.ค.ทุกปี มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด เฉลี่ย 2.5%”

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด ระบุว่า หุ้นปันผลจะปรับตัวขึ้นเด่นในช่วง 4 เดือนแรกของปีเสมอ สะท้อนได้จากสถิติในอดีตช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะปกติ ปี 2558 - 2562 พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี ดัชนีหุ้นปันผลที่มีการจ่ายปันผลติดต่อกัน 3 ปี และมี Dividend Yield สูงสุด 30 อันดับแรกในที่มีการบวกเงินปันผลจ่ายกลับเข้ามา (SETHD TRI) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 10.61% เป็นบวกทุกเดือน และปรับขึ้นได้ดีกว่า ดัชนี SET ที่มีการบวกเงินปันผลจ่ายกลับเข้ามา (SET TRI) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6.44% โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ดัชนี SETHD TRI จะปรับขึ้นได้ดีกว่าตลาด และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ชนะตลาด 

ที่มา : หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,658 วันที่ 4 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2564