“เราชนะ-คนละครึ่ง” รัฐบาลเตือน พบทุจริตยกเลิกทันที

07 มี.ค. 2564 | 05:05 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2564 | 12:16 น.

รัฐบาลเตือนร้านค้าร่วมโครงการ “เราชนะ-คนละครึ่ง” หากพบทุจริต ถูกยกเลิกทันที แจงดำเนินคดีกับร้านค้าที่กระทำผิดไปแล้ว 68 ราย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ “คนละครึ่ง” โครงการ “เราชนะ” ที่ดำเนินการมาระยะหนึ่ง และโครงการ “เรารักกัน” ที่จะเริ่มใช้จ่ายได้เร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะในส่วนของการควบคุมดูแลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ให้ติดตามตรวจสอบไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนถึงปัญหานี้มายังรัฐบาล

 

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล

 

“นายกรัฐมนตรีขอให้ร้านค้าเห็นใจประชาชน  เพราะทุกคนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เหมือนกัน รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้”

 

ทั้งนี้ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธันวาคม 2563  จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินคดีกับร้านค้าที่กระทำผิดไปแล้ว  68 ราย ในจำนวนนี้เป็นร้านธงฟ้า 47 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปยังร้านค้าทุกแห่งและออกตรวจสอบไม่ให้ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ เช่น ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับ/แลกเป็นเงินสด ห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่ สุรา เบียร์ ห้ามเอาเปรียบขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม  หากพบหลักฐานร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับร้านธงฟ้านั้น มีข้อกำหนดชัดเจนอยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร ถ้าตรวจพบการกระทำผิดจะถูกยกเลิกจากโครงการทันทีและอาจถูกยึดเครื่อง EDC หรือยกเลิกการใช้แอปพลิเคชัน ทำให้ไม่สามารถขายสินค้ากับโครงการได้อีกต่อไป