แบงก์รัฐปรับเวลาเปิด-ปิดสาขาทั่วประเทศ รับ "ล็อกดาวน์”เริ่มวันนี้ 10 ก.ค.

10 ก.ค. 2564 | 04:23 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ค. 2564 | 11:23 น.

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ประกาศมาตรการรองรับ “ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” ปรับเวลาเปิด-ปิดสาขาทั่วประเทศ เริ่ม 10 ก.ค.นี้ ระบุเป็นมาตรการเบื้องต้น แต่ละแห่งสามารถปรับเข้มขึ้นขึ้นได้ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

กรณีที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 มีมติเห็นชอบให้ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับ 10 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายและรรวมกลุ่มของบุคคลขั้นสูงสุด รวมถึงกำหนดเวลาการออกนอกเคหะสถาน เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เท่าทันต่อสถานการณ์

 

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สมาคมแบงก์รัฐ) และธนาคารสมาชิกทุกแห่งคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.)

 

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าประชาชนอย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ส่วนของการให้บริการ ณ ที่ทำการสาขาทุกแห่งของธนาคารนั้นยืนยันว่า ยังให้ความสำคัญกับมาตรการรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 

1. ธนาคารอาจปิดให้บริการสาขาบางแห่งตามความจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 10 จังหวัด  เป็นการชั่วคราว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

 

ลูกค้าสามารถตรวจสอบสาขาที่ปิดให้บริการชั่วคราวได้ตามประกาศที่ทาง website ของแต่ละธนาคาร

 

2. กำหนดเวลาเปิดทำการสาขาทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ดังนี้ 

- สาขาในห้าง/สาขาที่เปิดให้บริการไม่เกิน 17.00 น. จะยังคงเปิดให้บริการเวลาไม่เกิน 17.00 น.

- สาขาอื่น ๆ เปิดให้บริการเวลาไม่เกิน 15.30 น.

- สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เปิดให้บริการเวลาไม่เกินเวลา 15.00 น.

แบงก์รัฐปรับเวลาเปิด-ปิดสาขาทั่วประเทศ รับ \"ล็อกดาวน์”เริ่มวันนี้ 10 ก.ค.

3. จำกัดช่องให้บริการและจำนวนลูกค้าในสาขา เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และลดความแออัด

 

4. กรณีสาขามีพนักงานหรือลูกค้าติดเชื้อ ให้ปฏิบัติ ดังนี้

- ให้แต่ละธนาคารปิดบริการสาขาที่มีผู้ติดเชื่อเป็นการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อดำเนินการเสร็จ

- พนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ให้ตรวจหาเชื้อ/และกักตัวเองในที่พักทันที ตามระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

- จัดให้มีพนักงานปฏิบัติงานทดแทน และต้องเป็นพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องหรือสัมผัสเชื้อ 

 

ทั้งนี้ มาตรการรองรับการให้บริการลูกค้าในที่ทำการสาขา จัดทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน รองรับความต้องการของลูกค้าที่ประสงค์เข้ามาทำธุรกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่สาขาของธนาคาร อาทิ การฝาก/ถอน/โอนเงิน ชำระสินเชื่อ หรือค่าบริการต่าง ๆ ธุรกรรมด้านสินเชื่อ แลการทำนิติกรรม

 

ขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถใช้บริการสำคัญของธนาคารเพิ่มเติมที่ตู้อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ตู้ ATM ซึ่งธนาคารทุกแห่งได้เตรียมสำรองธนบัตรไว้อย่างเพียงพอ รวมถึงการให้บริการผ่าน Application Mobile Banking ของแต่ละธนาคาร

 

เพื่อลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง และการสัมผัสธนบัตร เพื่อให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค   โควิด-19 ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่สถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารสมาชิกทุกแห่งมีออกมาในขณะนี้นั้น เป็นเพียงมาตรการเบื้องต้นที่จะช่วยดูแลลูกค้าประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการใช้บริการอย่างเต็มที่

 

จากนี้ไปธนาคารสมาชิกแต่ละแห่ง พร้อมจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อดูแลให้ลูกค้าประชาชนได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบายใจการใช้บริการทางการเงินกับธนาคารทุกแห่งให้มากที่สุดต่อไป