นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring)เปิดเผยว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่สำคัญ
ดังนั้นอัตราการฉีดวัคซีนที่แตกต่างกัน ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP Growth ที่แตกต่างกัน ซึ่งในแง่การลงทุนอาจต้องให้น้ำหนักการลงทุนในฝั่งที่มีการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยเฉพาะจากประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป และรวมถึงจีนที่มีการฉีดวัคซีนวัคซีนที่ครอบคลุมแล้ว
สำหรับธีมการลงทุน เพื่อโอกาสของผลตอบแทนในครึ่งปีหลังนี้ เราให้ความสนใจกับโอกาสการลงทุนใน 3 แนวทางหลักคือ
1.กลุ่มหุ้นนวัตกรรมเติบโตสูง(Growth) ซึ่งเชื่อได้ว่า วัฏจักรเศรษฐกิจที่สั้นลง Sector Rotation กลับไปสู้กลุ่มหุ้นเติบโตสูงอาจเกิดขึ้นได้ในระยะไม่นานถัดจากนี้ ประกอบกับการที่หุ้นกลุ่มคุณค่านั้นโอกาสการเติบโตของรายได้ที่ต่ำกว่าทำให้หุ้นกลุ่มคุณค่าที่เคยดึงดูดผู้ลงทุนจากระดับราคา อาจไม่ได้ราคาถูกเหมือนเดิมอีกต่อไป
2.กลุ่มหุ้นนวัตกรรมเทคโนโลยีขนาดเล็กแต่มีโอกาสเติบโตสูงของจีน ซึ่งแม้ว่า หุ้นจีนค่อนข้างได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรกจากนโยบายของภาครัฐ เช่น การสั่งระงับการเปิดเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ของ Ant Group บริษัทในเครือ Alibana แบบกะทันหัน หรือ การเพิกถอนแอฟพลิเคชั่นบริการแท็กซี่อย่าง Didi ที่มีการทำ IPO ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อต้นกรกฎาคมที่ผ่านมา
“ประเด็นเหล่านี้ เราเชื่อว่า เป็นขั้นตอนการปฏิรูปโครงสร้างที่สำคัญและประเทศที่มีศักยภาพระดับโลกอย่างจีนจะสามารถก้าวผ่าน มีความเข้มแข็งและเกิดเสถียรภาพได้ในระยะยาว การแบนบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้ง Facebook และ YouTube ต่างก็เคยโดนการควบคุมและการฟ้องร้องเช่นกัน”
ประกอบกับเมื่อดูปัจจัยพื้นฐานของจีนแล้วพบว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งและก้าวพ้นสถานการณ์โควิด-19 เรียบร้อยแล้ว ทั้งในแง่อัตราการฉีดวัคซีนและอัตราการติดเชื้อ ยิ่งทำให้มั่นใจในหุ้นจีนมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจในหุ้นจีน แต่ยังคงมีความกังวลกับหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ปัจจุบัน TMBAM Eastspring ได้เปิดขายกองทุน TMB-ES-STARTECH ซึ่งเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน KraneShares SSE STAR Market 50 Index ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนหลักจะลงทุนใน STAR Market ที่รัฐบาลจีนออกแบบให้บริษัทของจีนที่ยังมีขนาดเล็ก แต่มีอนาคตเติบโตสูงสามารถเข้ามาจดทะเบียนและมีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีได้
3.กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง เริ่มต้นใหม่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับหุ้นที่ปัจจุบันได้รับผลบวกชัดเจนอย่างหุ้นรับเปิดเมือง (Re-opening) เรามองว่า ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กิจกรรมต่างๆในประเทศกลับมาใกล้เคียงก่อนเกิดโควิดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มร้านอาหาร กลุ่มโรงแรม กลุ่มโรงภาพยนต์ ฯลฯ ทำให้เรามองว่าหุ้นในกลุ่มนี้จะมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีกครั้ง
สำหรับผู้ที่สนใจในหุ้นธีมนี้ ปัจจุบันเราได้เปิดขายกองทุน TMB-ES-CHILL ซึ่งลงทุนในกองทุน Invesco Dynamic Leisure and Entertainment ETF เพียงกองทุนเดียว และมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dynamic Leisure and Entertainment Intellidex Index
สำหรับสินทรัพย์ที่แนะนำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังให้น้ำหนักกับการลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะผลตอบแทนต่อความเสี่ยงมีความคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนตราสารหนี้นั้น มองว่า เป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าลงทุนใน HY Bond เพราะด้วยเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว ความเสี่ยงจากการที่บริษัทจะผิดชำระหนี้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย
นอกจากนั้นยังคาดว่าพันธบัตรรัฐบาลจะได้รับผลกระทบจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยจากอัตราเงินเฟ้อในอเมริกาที่ยังอยู่ในระดับสูง
"ภาพรวมพอร์ตลงทุนที่แนะนำ ยังให้น้ำหนักกับหุ้นโลก (Global Equity) เป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตลงทุน (core portfolio) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เงินลงทุนระยะยาว โดยอาจผสมหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน(infrastructure fund) และกลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือก (renewable fund)"
ส่วนพอร์ตที่เน้นสร้างผลตอบแทนและทำกำไรในระยะปานกลาง (Satellite Portfolio) แนะนำให้ลงทุนใน 3 ธีมหลักข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น หุ้นนวัตกรรมหรือหุ้นเติบโตสูง หุ้นจีน หรือหุ้นรับการเปิดเมือง