“อินโดรามา เวนเจอร์ส” ธุรกิจรุ่ง กำไรสุทธิ Q2 พุ่ง 8,340 ล้าน

06 ส.ค. 2564 | 08:08 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2564 | 19:45 น.

อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงาน Core EBITDA ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 กว่า 477 ล้านดอลลาร์ ชี้ทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวตลาดโลกจากการแพร่ระบาด ขณะมีกำไรสุทธิ Q2 กว่า 8,340 ล้านบาท

 

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564 โดยมี Core EDITDA (รายได้หักค่าใช้จ่าย(ไม่รวมดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมราคา)ที่ได้จากธุรกิจหลัก) เท่ากับ 477 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลจากเศรษฐกิจในหลายประเทศฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจของไอวีแอล บริษัทฯ คาดว่าจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในครึ่งหลังของปี 2564 และตลอดปี 2565 ด้วยโครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกทำให้เกิดสัญญาณเชิงบวก

 

สำหรับสรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ของบริษัทมีดังนี้

 

-รายได้จากการขายรวมในไตรมาสที่ 2 จำนวน 3,559 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เมื่อเทียบปีต่อปี

-EBITDA อยู่ที่ 552 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Core EBITDA อยู่ที่ 477 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

-กำไรสุทธิ 8,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นจาก 154 ล้านบาทเมื่อไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

 

-Core ROCE ร้อยละ 12.9 เพิ่มขึ้น 443 basis point (bps) เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และ 715 bps เมื่อเทียบปีต่อปี

-โครงการ Olympus หรือโครงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจและต้นทุนทั่วทั้งองค์กรของบริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานคิดเป็นจำนวน 116 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในระหว่างครึ่งปีแรกของปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 287 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับปี 2564

 

-การเข้าซื้อกิจการ CarbonLite ซึ่งเป็นโรงงานรีไซเคิล PET ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ไอวีแอลเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) รายใหญ่ที่สุดในโลก

 

 

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทได้เร่งดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนและพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อเตรียมองค์กรให้พร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต และตอนนี้เริ่มเห็นผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการเหล่านั้นในช่วงเวลาที่โครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกกำลังส่งผลให้เกิดการฟื้นตัว บริษัทยังคงได้รับประโยชน์จากแรงหนุนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอุปสงค์และกำไรที่แข็งแกร่งใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักของไอวีแอล ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Combined PET กลุ่มธุรกิจ Fibers และ กลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides & Derivatives (IOD)

 

ทั้งนี้หัวใจหลักในโครงสร้างธุรกิจของไอวีแอล คือการมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมอย่างเนื่อง และความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และความยั่งยืน ทุก ๆ การลงทุนของบริษัทในประเด็นสำคัญเหล่านี้จะขับเคลื่อนไอวีแอลให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2564