นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) เปิดเผยว่ารายได้จากการขายในไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่ที่ 6,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกลุ่มประเทศ CLMV เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจหลัก ผลักดันอัตราการเติบโตในต่างประเทศโดยรวมที่ 76% แม้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ยังได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน รวมถึงพัฒนารถเข็นแรงดันลบสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามต่างๆ 161 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นพลังให้คนไทยฮึดสู้ฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19
สำหรับตลาดในประเทศมีส่วนแบ่งการตลาด 55% จากแบรนด์อันดับ 1 อย่างเอ็ม-150 แบรนด์ลิโพที่มีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ สร้างปรากฎการณ์ครั้งแรกในรอบ 22 ปี เปิดตัว ‘ลิโพ-ไฟน์’ แจ้งเกิดเซกเมนท์ใหม่ให้กับ “เครื่องดื่มบำรุงกำลังสำหรับผู้หญิง” และเครื่องดื่มโสมอินซัมที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์นั้น ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่ง 37% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหลังจากออกสินค้าใหม่ นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากการกระจายสินค้าให้แก่เครื่องดื่มวิตามินของกลุ่มยันฮี ซึ่งเป็นอีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูง
ขณะที่ การกลับมาเดินเครื่องจักรของโรงแก้วหลังจากปิดปรับปรุงในไตรมาสก่อน สัดส่วนช่องทางการขายที่ดีขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm อย่างต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน ทำกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 1,824 ล้านบาท เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีมติเสนอจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 1,352 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 กันยายน 2564
“จากสถานการณ์ความท้าทายจากโควิด-19 โอสถสภามุ่งเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพ การสร้างพลังทางด้านการตลาดผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร และเริ่มวางรากฐานการนำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและนำเคโนโลยีมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าใช้ Big Data มาช่วยปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและทรานส์ฟอร์มองค์กรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในอนาคต”