ทุนไทย3.37แสนล้าน จ่อขนเงินลงทุนนอก รอวิกฤติโควิดคลี่คลาย

03 ก.ย. 2564 | 23:00 น.

ซีไอเอ็มบี ไทย คาดทั้งปีธุรกิจไทยลงทุนต่างประเทศมูลค่า 5 แสนล้านบาท ชะลอตัวจากปีก่อน 12.8% ระบุรายใหญ่ 3.37 แสนล้านบาทอยู่ระหว่างดีล ทั้งซื้อกิจการ ตั้งโรงงานใหม่ และร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น ทีทีบีชี้ บาทอ่อน ดันต้นทุน TDI แพงขึ้น 6%

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(ฺBOI) ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 278,658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เม็ดเงินที่ธุรกิจไทยออกไป ลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ หรือ TDI กลับชะลอลง

 

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา, CFA กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นข้อจำกัดและรุนแรงมากกว่าปีก่อน จะทำให้มูลค่า TDI สิ้นปี 2564 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท ลดลงราว 12.8% จา่ก 5.64 แสนล้านบาทในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ TDI เติบโตพุ่งพรวด 79.61% จาก 314,000 ล้านบาทในปี 2562

เกษม พันธ์รัตนมาลา, CFA กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)

 

ทั้งนี้เนื่องจาก ไตรมาส 2 และ 3 น่าจะเดินทางไปดูกิจการไม่สะดวก ขณะที่แนวโน้มระยะปานกลาง ยังมีโอกาสจะเห็น TDI ปรับเพิ่มในปี 2565 โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย สามารถคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศได้  โดยประเภทธุรกิจที่น่าสนใจในต่างประเทศนั้น ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ กลุ่มปูนใหญ่ กลุ่มปตท. กลุ่มบมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ขยายกิจการโรงเลี้ยงหมู ไก่ในรัสเซีย

 

สะท้อนบริษัทใหญ่ของไทยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากเหมือนกับบริษัทขนาดกลางหรือเอสเอ็มอี ซึ่งแนวโน้มการฟื้นตัวของประเทศไทยอาจจะช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับข้อจำกัดเรื่องสังคมผู้สูงอายุ กำลังซื้อในประเทศที่ลดลง และกฎระเบียบต่างๆ จึงมีโอกาสเห็นธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศต่อเนื่อง

โดยเฉพาะในธุรกิจปิโตรเคมี ขุดเจาะปิโตรเลียม หรือบมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ที่ซื้อกิจการโรงงานเคมีภัณฑ์ในสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่มธนาคารค่อนข้างมีข้อจำกัดเรื่องกฎระเบียบ (Regulation) มากกว่ากลุ่มธุรกิจประเภทอื่น จึงมีดีลให้เห็นไม่มาก เช่น ธนาคาร กรุงเทพ เข้าซื้อกิจการธนาคาร เพอมาตาในอินโดนีเซี ย เมื่อ 2 ปีก่อน ส่วนธนาคาร ไทยพาณิชย์และกสิกรไทย ยังเน้นลงทุนดิจิทัลในไทย แต่คงเตรียมแพลตฟอร์มขยายไปต่างประเทศด้วย

 

ทั้งนี้ ดีล TDI ที่อยู่ระหว่างดำเนินการที่น่าสนใจ มีมูลค่ารวม 337,347.08 ล้านบาท คือ 1.บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มูลค่า 138,748 ล้านบาท  2.บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) 73,502.45 ล้านบาท  3.บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส  40,531.40 ล้านบาท 4.บมจ.ไทยออยล์ มูลค่า 39,501 ล้านบาท 5.บมจ.ราช กรุ๊ป มูลค่า 25,622.41  ล้านบาท 6.บมจ.บ้านปู มูลค่า 16,943.82 ล้านบาท และ 7. บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ มูลค่า 2,498 ล้านบาท

 

ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบทั้งการออกไปซื้อกิจการ หรือตั้งโรงงานใหม่ รวมถึงร่วมทุนกับบริษัท/นักลงทุนท้องถิ่น เพราะบางประเทศยังจำกัดต่างชาติเข้าไปลงทุน

 

ในแง่ของรายได้ส่งกลับไทยนั้น ธุรกิจไทยเพิ่งจะออกไปลงทุนในต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปี ซึ่งช่วงแรกจะต้องใช้เวลากว่าจะตั้งหลักและสร้างผลประกอบการที่ดี โดยเมื่อปีก่อนอยู่ที่ 2.84 แสนล้านบาท และปี 2562 มีรายได้ประมาณ 3.06 แสนล้านบาท เป็นรายได้จากการออกไปลงทุนในต่างประเทศแต่ละปีซึ่งเป็นรายได้รวมการลงทุนก่อนหน้าด้วย

ด้านนายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ttb analytics ธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) ระบุว่า ทิศทางธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศหรือ TDI ในปีนี้ แนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อน ซึ่งนอกจากปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศแล้ว ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนคือ ปีนี้ เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ ทำให้ภาคธุรกิจรอดูท่าที ทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาทและสถานการณ์โควิด-19 ด้วย

นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ttb analytics ธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี)

 

“เชื่อว่าปี 2564 ธุรกิจไทยรอดูท่าทีทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาท และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในไทย เพราะตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้ เงินบาทอ่อนค่ามาก หากภาคธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศตอนนี้ต้นทุนจะแพงขึ้น 6% ตามการอ่อนค่าของเงินบาท ทำให้มูลค่า TDI ไม่หวือหวาเช่นปีก่อน ซึ่งปีก่อนไตรมาสแรก เม็ดเงินลงทุนออกไป 1.18 แสนล้านบาท ไตรมาสสอง 1.6 แสนล้านบาท ไตรมาสสาม 1.2 แสนล้านบาท แต่ปีนี้ไตรมาสแรกมีเพียง 9.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งย่อตัวลงเยอะ” นายนริศ กล่าว

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,711 วันที่ 5 - 8 กันยายน พ.ศ. 2564