นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)(HENG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นผ่านการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้าน Software และ Mobile Application เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการ ควบคู่กับการขยายสาขา ‘เฮงลิสซิ่ง’ ในภูมิภาคต่าง ๆ จากปัจจุบัน ณ 30 มิถุนายน 2564 มีทั้งสิ้น 451 สาขา โดยในปี 2566 วางแผนจะขยายเพิ่มเป็น 830 สาขา เพื่อครอบคลุมฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ และช่วยสนับสนุนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 14,800 ล้านบาท
“เรามุ่งพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการสินเชื่อเพื่อสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ลูกค้า ด้วยวิสัยทัศน์เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่นิยมชมชอบของลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น เพื่อก้าวสู่หนึ่งในผู้นำการให้บริการสินเชื่อที่ครบวงจรในประเทศไทย โดยพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการขยายสาขาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้แนวคิด ‘ใคร ๆ ก็กู้ได้’ พร้อมควบคุมบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ HENG กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญของ HENG ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ นำความเชี่ยวชาญของ 4 กลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี มารวมกันจึงสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายในการอขยายการให้บริการไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ครอบคลุม ทั้งสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน พร้อมทีมพนักงาน ‘เฮงลิสซิ่ง’ ที่คัดเลือกคนในพื้นที่สาขาให้บริการ ซึ่งเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายธีรวัฒน์ ธวัลรัตน์โภคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2561-2563 บริษัทฯ ขยายพอร์ตสินเชื่อรวมสุทธิก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ/ ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คิดคาดว่าจะเกิดขึ้น จาก 7,617 ล้านบาท เพิ่มเป็น 8,038 ล้านบาท และ 8,277 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 4.2 ต่อปี โดยมีรายได้จากดอกเบี้ยอยู่ที่1,239 ล้านบาท 1,557 ล้านบาทและ 1,450 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน เป็นพอร์ตทรายได้หลัก ขณะที่กำไรสุทธิปี 2561-2563 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 44.6 ต่อปีหรือทำได้ 152 ล้านบาท 189 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 318 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีการปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อประจำปีทำให้พอร์ตสินเชื่อรวมสุทธิก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ/ ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คิดคาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นจากปี 2563 เล็กน้อยเป็น8,420 ล้านบาท โดยมีรายได้จากดอกเบี้ย 686 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันยังคงเป็นพอร์ตหลัก โดยสินเชื่อเช่าซื้อยังคงเป็นรายได้หลักเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บริษัทฯ จึงตั้งค่าเผื่อเพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการ (Management Overlay) เพื่อรองรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อในอนาคต ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 109 ล้านบาท
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 1.95 บาทต่อหุ้น หลังจากสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบันซึ่งแสดงความต้องการซื้อหุ้นเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรร และราคาดังกล่าวถือเป็นราคาที่สะท้อนพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ และกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจที่โดดเด่นที่จะช่วยผลักดันให้ HENG เติบโตอย่างก้าวกระโดด และยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้ HENG จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 2564 และคาดว่าจะสามารถ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนตุลาคมนี้