นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund)ของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุน และการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมตรงกับวัตถุประสงค์ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าสถาบัน และกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีเงินลงทุนสูง (High Net Worth) ในการให้บริษัทฯ เข้ามาช่วยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนจำนวนมาก
โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันนั้น มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา สหกรณ์ ตลอดจนบริษัทเอกชนและบริษัทประกัน เป็นต้น ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารงานรวม 538,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32,072 ล้านบาทจากสิ้นปี 2563 โดยครองส่วนแบ่งตลาด 26.02% (ข้อมูลสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564)
บริษัทฯ ยังคงเดินนโยบายในการขยายฐานลูกค้าบุคคลและสถาบันให้มากขึ้น รวมถึงเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ ที่หลากหลายและซับซ้อนทั้งไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายและสอดคล้องกับทิศทางสภาวะเศรษฐกิจการลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่แตกต่างกันไป
ปัจจุบันแนวโน้มกลุ่มลูกค้าบุคคลจะมีความสนใจในการลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ และตราสารทุนภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากเนื่องจากสภาวะตลาดที่มีความผันผวนตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 รวมถึงอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ค่อนข้างต่ำ ทำให้ลูกค้าบุคคลหรือสถาบันหันมาให้ความความสนใจในสินทรัพย์อื่นที่ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังรวมถึงลูกค้าสถาบันจากเดิมที่เคยบริหารเงินเองก็หันมาลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหารเงินให้โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์เครดิต
“บริษัทฯ สามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงยาก โดยได้ลงทุนผ่านทางคู่ค้าต่างประเทศ หรือบริษัทจัดการระดับโลกที่เป็นพันธมิตร ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนจะช่วยเฟ้นหากองทุนต่างประเทศที่น่าสนใจให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ และสามารถบริหารความเสี่ยงได้โดยเลือกป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้”นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการออกแบบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับความเสี่ยงและข้อจำกัดในการลงทุนของผู้ลงทุนที่หลากหลายขึ้น โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ทั้งกลุ่ม Conservative Investor ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำ หลีกเลี่ยงความผันผวน เน้นการรักษาเงินลงทุนให้ปลอดภัย กลุ่ม Moderate Investor รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง เลือกการลงทุนที่มีความปลอดภัย แต่สามารถเปิดโอกาสรับความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น และกลุ่ม Aggressive Investor รับความเสี่ยงได้สูง โดยคาดหวังที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงมากขึ้น