ความยั่งยืนเป็นกระแสนิยมระดับโลก จากปรากฎการณ์และความเสี่ยงในโลกยุคอุตสาหกรรม 4.0 เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งนำไปสู่ภัยพิบัติ การขาดแคลนทรัพยากร ความเหลื่อมล้ำทางโอกาสและทรัพยากรในสังคมที่นำไปสู่ความขัดแย้ง หรือแม้กระทั่งการเอาเปรียบผู้บริโภค ทุจริต ฉ้อโกง และการคอรัปชั่น ล้วนมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance: ESG)
ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ การลงทุน และการใช้ชีวิตของพวกเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแนวคิดในการพัฒนาด้านความยั่งยืน (Sustainable Development) จึงเกิดขึ้น เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกด้านการประกอบธุรกิจ-การลงทุน รวมถึงเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตคนรุ่นเราและคนรุ่นหลังด้วย
ความนิยมด้านการพัฒนาความยั่งยืน กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากภาคธุรกิจ หรือในกลุ่มนักลงทุนเอง จนเกิดเป็นกระแสนิยมทั่วโลกในระดับเมกะเทรนด์ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีสำหรับธุรกิจที่สามารถปรับตัว ปรับแผนธุรกิจ และนักลงทุนที่สามารถคว้าโอกาสด้านการลงทุนแบบยั่งยืนเพื่อรองรับการเติบโต และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยด้าย ESG ที่อาจจะเข้ามาต่อธุรกิจ หรือการลงทุนได้
บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งกำลังให้ความสนใจด้านการพัฒนาด้านความยั่งยืน ทั้งการเปิดเผยข้อมูลผ่านรายงานความยั่งยืน (Sustainability Reports) การคำนึงถึงปัจจัยด้านความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการแผน และกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ (Business Model & Strategy) รวมไปถึงการเข้าร่วมกับองค์กรความร่วมมือต่าง ๆ เช่น แผนพัฒนาความยั่งยืน โดยองค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) และการจัดตั้งเครือข่ายด้านความยั่งยืน เช่น Global Compact Network Thailand: GCNT ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วม 15 แห่ง
โดยการนำปัจจัยด้านความยั่งยืนมาประกอบการดำเนินธุรกิจ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตในระยะยาวจาก 3 เหตุผลด้วยกัน
การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยผลักดันให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น จากรายงานของ Morningstar พบว่า นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก โดยปี 2563 มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM)ของกองทุนที่มีแนวคิดนี้ทั่วโลกขยับขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.65 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% เทียบกับปีก่อนหน้า โดยไตรมาส 4 ของปี 2563 เพียงไตรมาสเดียว มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนกลุ่มนี้ทั่วโลกสูงถึง 1.52 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่อุตสาหกรรมตลาดทุนไทย กลุ่มนักลงทุนสถาบันได้มีการสนับสนุนแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนปัจจัยด้าน ESG มาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน และการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการร่วมประกาศเจตนารมณ์ ความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบของนักลงทุนสถาบัน (ESG Collaborative Engagement) ต่างก็เป็นการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนตระหนักถึงเรื่องนี้มากขึ้น และที่สำคัญยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมกับเมกะเทรนด์นี้อีกด้วย
ทั้งนี้ บลจ. ไทยพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมปัจจัยด้านความยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และด้านธรรมาภิบาล มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของหลักการบริหารจัดการกองทุน ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมบริษัทที่มีการเติบโตที่ยั่งยืน โดยในปัจจุบันได้มีประเมิน SCBAM ESG Score สำหรับกลุ่มบริษัทจดทะเบียน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน สำหรับกองทุนรวมภายใต้การบริหารของ SCBAM
และยังได้จัดตั้งกองทุน SCBTHAICG ซึ่งจะเป็นกองทุนรวมที่มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านการเติบโตเชิงธุรกิจ และมีความใส่ใจด้านความยั่งยืนผ่านปัจจัย ESG อีกด้วย