30 พ.ย.2564 - วงการนักลงทุนและตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ หรือ เหรียญดิจิทัลของไทย เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาทันที หลังจากวันนี้ เหรียญ KUB Coin, jfin Coin และ Six Coin ที่เคยทำราคาพุ่ง All Time High ก่อนหน้า ราคาร่วงแรงในพริบตา เช่น ราคา Bikub Coin หรือ KUB ลงไปสู่ระดับต่ำสุด 150 บาท หรือ ลดลงไปราว 70% จากราคาสูงสุด ก่อนเมื่อเวลา 19.30 น. กลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 230 บาท
กลายเป็นปรากฎการณ์เฝ้าจับตามองของนักลงทุน ว่าทิศทางเหรียญคริปโตของไทยจะไปอย่างไร และยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุนอีกหรือไม่
ล่าสุด นายณัฐ เหลืองนฤมิตชัย ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจตลาดทุน และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว บัญชี : Nat Luengnaruemitchai ซึ่งได้หยิบยกประเด็น ความผันผวนของตลาดเงินดิจิทัล โดยเฉพาะเหรียญสัญชาติไทย โดยแนะให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน จากความผิดปกติของตลาดคริปโตไทย ดังใจความดังนี้ ...
วันนี้นับเป็นวันที่ตลาดคริปโตเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หลังจากที่ SCB ประกาศซื้อ BITKUB เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ยอดการซื้อขายเพิ่มจากวันละประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว มาเป็นวันละ 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
แต่พอเรามาแตกดูยอดการซื้อขายเป็นแต่ละคู่การซื้อขายก็จะพบว่า 4 อันดับแรก คือเหรียญ KUB, SIX, SAND, JFIN มีการซื้อขายคิดเป็นเกือบ 70% ของยอดการซื้อขายทั้งหมด แซงหน้าเหรียญยอดนิยมอย่าง BTC อย่างไม่เห็นฝุ่น
ทั้งนี้เป็นเพราะเหรียญทั้งสี่ มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้สนใจเข้าไปซื้อขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากถามกันว่า เหรียญเหล่านี้ทำไมถึงเคลื่อนไหวมาก ก็มีจุดที่น่าสนใจที่อาจจะเป็นเหตุผลอยู่หลายข้อ เช่น
หากมองในแง่ร้าย อาจจะตีความได้ว่า ตามเหตุผลข้างต้น เหรียญเหล่านี้สามารถถูกปั่นราคาได้ง่าย ใช้เงินไม่มาก ก็สามารถทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงได้มาก เลยอาจจะถูกปั่นราคาขึ้นไป เพื่อทำกำไร ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ดูผิดปกติพอสมควร โปรดใช้ความระมัดระวังในการลงทุนครับ